เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า ศอ.บต.ได้หารือกับ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทย ถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากตัวเลขรายได้ต่อหัวประชากรต่ำที่สุดของภาคใต้ และมีแนวโน้มต่ำที่สุดของประเทศ

นายชนธัญ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีเงื่อนไขในการพัฒนา และเป็นปัญหาอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบ กฎหมาย ที่มีขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อนไม่เหมาะสมกับยุคสมัย จึงมีแนวทางการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ ที่จะเป็นการทบทวนการพัฒนาเศรษฐกิจที่สามารถเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับฐานรากไปจนถึงอนุภูมิภาค

“เชื่อมโยงการผลิตในพื้นที่ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น เมืองผลไม้ เมืองปศุสัตว์ ที่จะยกระดับเป็นอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ภายใต้โจทย์การเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมอาหาร Food Innopolis กับการเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ บวกด้วย จีน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น หรือการพัฒนาแนวเขตชายแดนไทย-มาเลเซีย ภายใต้เมืองคู่การพัฒนา Twin City”

นายชันธัญ กล่าวอีกว่า ภาคเอกชนลงทุน และรัฐหนุนเสริมด้วยเครื่องมือที่รัฐมีการอำนวยความสะดวกในทุกรูปแบบ มีการติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เอกชนเดินหน้าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ และไม่ขัดแย้งต่อกฎระเบียบต่างๆ ของการบริหารงาน เช่น การบังคับใช้กฎหมายบางมาตราในพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 มาตรา 18

“เพื่อการกระจายอำนาจการอนุมัติ อนุญาตจากส่วนกลางมาไว้ในพื้นที่ และมาตรา 9 (1)-(5) ในการบูรณาการและกำกับส่วนราชการ เพื่อให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการ พร้อมกำหนดการวัดผล ด้วยตัวเลข GPP ตัวเลขครัวเรือนยากจน และรายได้ต่อหัวประชากร ต้องดีขึ้นภายใน 4 ปี”

ด้าน นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตพัฒนาพิเศษที่มีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ หลายอย่าง แต่วันนี้หลังจากที่ได้หารือร่วมกัน ทำให้เห็นมุมมองการพัฒนาพื้นที่ ที่เห็นตรงกัน คาดว่าในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภายใต้ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของ ศอ.บต. และหอการค้าไทยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพื้นที่ และประชาชนทุกรูปแบบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และมีผลสัมฤทธิ์ที่บรรลุตามเป้าหมาย

“หอการค้าไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลาง และพี่เลี้ยงในการการทำงานจากเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อน 3 Value Chain อาทิ การค้า การลงทุน เกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำ”