นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก นายสรศักดิ์ รณนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ถึงผลการปฎิบัติงานการจัดเก็บคราบน้ำมัน บริเวณหน้าหาดในพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมือง เจ้าหน้าทหารเรือกองทัพเรือภาค 3 เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจิตอาสา
ร่วมกันดำเนินการ จัดเก็บและทำความสะอาด บริเวณหน้าหาดดังกล่าว ได้ดำเนินการจัดเก็บ คราบน้ำมันสีดำ บริเวณหน้าหาด ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ประกอบไปด้วย หาดไม้ขาว ระยะทางประมาณ 5.42 กม. หาดในยาง ระยะทางประมาณ 3.66 กม. หาดในทอนระยะทางประมาณ 1 กม. หาดลายัน ระยะทางประมาณ 1 กม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดเก็บ คราบน้ำมันสีดำตั้งแต่วันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา และดำเนินการจนกว่าจะแล้วเสร็จ
นายวราวุธ กล่าวว่า ได้รับรายงาน ได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ ทั้ง จังหวัดภูเก็ต และ เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแน่นอนว่า บางส่วนไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยานฯ แต่ก็ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศไทย
“ผมขอเตือนผู้ประกอบการทุกคนที่ทำกิจกรรม เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งบนบกและในทะเล ขอให้ประกอบการอย่างมีความรับผิดชอบกับสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางทะเล ที่เรามีความสวยงามอยู่อย่างจำกัด
อย่าให้ถึงกับขั้นที่ว่า เราต้องมาปิดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟู เพราะความมักง่ายของผู้ประกอบการบางราย จนทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว อย่างที่เราเคยต้องทำมาแล้วในอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ที่ต้องปิด 3-4 ปี ซึ่งก็ได้รับผลกระทบกันหมด นั่นก็มาจากความมักง่าย ของผู้ประกอบการบางคนที่ขาดจิตสำนึก” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้การท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นมา นักท่องเที่ยวกำลังมาประเทศไทยกันอย่างมหาศาล ขอเตือนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทุกคน ทุกๆบริษัท ให้กำชับพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้บังคับเรือ ให้ทำงานอย่างมีจิตสำนึกถึงความสวยงาม และความรับผิดชอบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดความเสียหาย ย่อมเกิดกับผู้ประกอบการเอง ที่วันนี้เหมือนกำลังทุบหม้อข้าวตัวเองอยู่ คุณมีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือแทนที่จะช่วยกันรักษา กลับทิ้งคราบน้ำมันลงในอ่าวลงในทะเลอย่างนี้ทำให้เมื่อนักท่องเที่ยวไปแล้วมีคราบน้ำมันติดตัวมา ถามว่าแล้วอย่างนี้เป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างไร
นายวราวุธ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกไม่พอใจมาก ขออย่าให้ได้เจอ ตนจะสั่งจับ สั่งแบนให้หมด เพราะผู้ประกอบการ ด้านการท่องเที่ยวอย่างนี้ไม่ควรมีอยู่ในประเทศไทย จึงขอฝากทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมเจ้าท่า กรมการท่องเที่ยว และทุกหน่วยงานที่อยู่นอกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้มงวดกับผู้ประกอบการเหล่านี้ก่อนที่จะสายเกินไป
นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เราประสบวิกฤติ โควิด-19 เป็นช่วงที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยได้มีโอกาสพัก และฟื้นฟู แต่วันนี้กลับมีบางคนที่กำลังมักง่าย ทำให้สิ่งต่างๆที่เรารักษากันมาตลอด พังลงไปอีกครั้ง ดังนั้นขอเตือนด้วยความหวังดีและเป็นห่วงว่าอย่าให้เห็นสภาพแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยในประเทศไทย
นายวราวุธ กล่าวว่า ตนได้ให้กรมอุทยานฯ กับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งตรวจสอบดีเอ็นเอของน้ำมันก่อนว่ามาจากไหน จากเรือ หรือ อุตสาหกรรมอะไร เราจะต้องสืบหาต้นตอให้ได้ ในส่วนที่อยู่นอกพื้นที่เขตอุทยานฯ ต้องขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูคุณภาพผู้ประกอบการที่ประกอบการท่องเที่ยวเหล่านี้ เพราะ ทส.เรามีอำนาจปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมายจำกัดอยู่ในระดับหนึ่ง หากทส. มีอำนาจครอบคลุมในการปฎิบัติหน้าที่คงจับหมดแล้ว และไม่ให้ประกอบกิจการได้อีกสำหรับคนมักง่ายเช่นนี้