ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมประชุมหารือสร้างความเข้าใจ ในกรณีการจัดกิจกรรมกีฬาตาดีกาสัมพันธ์ในพื้นที่ ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี โดยมี หน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า , ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง , กำนันตำบลบ้านน้ำบ่อ , ผู้ใหญ่บ้าน (หมู่ 1 , หมู่ 3 , หมู่ 4 และ หมู่ 5) ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี , อิหม่ามประจำมัสยิดในพื้นที่ และผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิดดารุลมะมุร (ตาดีกา) ร่วมประชุม
พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีจัดขบวนพาเรทของกีฬาตาดีกาสัมพันธ์ของตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และมีกิจกรรมบางส่วนที่ถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชี่ยล และพบว่าเป็นพฤติกรรมที่อาจจะดูไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อความรู้สึกทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างกว้างขวาง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง วันนี้ก็ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดกิจกรรม ตั้งแต่ท่านนายกอบต.บ้านน้ำบ่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอิหม่าม รวมทั้งครูโรงเรียนตาดีกา นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอปะนาเระ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดปัตตานี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนอำเภอปะนาเระ รวมทั้งกองกำลังตำรวจจังหวัดปัตตานี มาร่วมประชุมหารือร่วมกัน
ซึ่งผลจากการประชุมในวันนี้ โดยเฉพาะในส่วนของคณะกรรมการจัดงานล้วนต่างรู้สึกเสียใจ กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทุกคนได้ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของพี่น้องประชาชนและเด็กๆ ในพื้นที่ตำบลบ้านน้ำบ่อ ในเรื่องของการจัดขบวนพาเหรดนั้น เน้นในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมรวมทั้งสินค้าที่หลากหลายที่โดดเด่น ของแต่ละหมู่บ้าน ภายหลังทราบข่าวจากสื่อว่ามีกิจกรรมแฝงเข้ามาตามที่ปรากฏในภาพแล้ว ทางคณะผู้จัดก็รู้สึกไม่สบายใจและอยากจะขอโทษต่อสังคม ซึ่งจริงๆแล้วคณะผู้จัดมีเจตนาที่ดีแต่มีมือที่สามมาทำให้กิจกรรมในครั้งนี้ผิดเพี้ยนไปจากวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็น ขณะนี้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจและคณะผู้จัดพร้อมที่จะประสานความร่วมมือ เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตรวจสอบกลุ่มผู้ไม่หวังดี
สำหรับแนวทางในการดำเนินการหลังจากนี้ ได้มีการกำหนดแนวทางการดำเนินงานประการแรกคือการใช้มาตรการทางกฎหมาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐล้วนคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยเฉพาะการใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ถือเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายและผิดกฎหมายผิด พรบ.คุ้มครองสิทธิเด็ก ส่วนที่สองถือว่ามีความสำคัญนั่นก็คือในเรื่องของการสร้างความเข้าใจ ซึ่งได้มอบหมายให้ศูนย์สันติวิธีและสำนักมวลชนและกิจการพิเศษ จัดทำแนวทางในการเสริมสร้างความเข้าใจ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโต๊ะอิหม่าม เพื่อใช้เป็นโมเดลในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ และประการสุดท้ายได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนอำเภอ ได้กำหนดแนวทางในการ จัดกิจกรรมในลักษณะแบบนี้ ตั้งแต่ในเรื่องของการขออนุญาต จัดกิจกรรมให้ถูกต้องตามกฏหมาย การเข้าไปร่วมให้การสนับสนุน รวมทั้งในเรื่องของการกำหนด แนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะเข้ามาแสวงประโยชน์ โดยเฉพาะการใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการดำเนินการในรูปแบบต่างๆ
ที้งนี้เด็กคือผ้าขาว เด็กคือผู้บริสุทธิ์ อยู่ที่ผู้ใหญ่ว่าจะแต่งเติมสีไหนให้เขา ถ้าต้องการให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เราก็แต่งแต้มสีที่สวยงามลงไปให้เด็ก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรากลับพบว่ามีผู้ใหญ่ หรือกลุ่มขบวนการบางคนได้ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ ในการแสวงประโยชน์ให้กับตนเองและกลุ่มขบวนการ ปลุกระดมบ่มเพาะเด็กให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ความรุนแรง ให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีแต่ความเกลียดชัง และสุดท้ายเด็กๆ เหล่านี้ก็จะมาซ้ำเติมสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เลวร้ายมากยิ่งขึ้นในอนาคต