บีโอไอชี้โอกาสทองลงทุนไทย รับเทรนด์ย้ายฐานการผลิต แนะเร่งเตรียมความพร้อมคนและอีโคซิสเต็มรับโมเมนตัมลงทุนอีก 2-3 ปีข้างหน้า โฟกัสดึง 5 อุตฯ อนาคต เชื่อมโยงซัพพลายเชนผู้ประกอบการในประเทศ หนุนตั้งศูนย์กลางธุรกิจในไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นหนึ่งในปีทองการลงทุนของไทย จากแนวโน้มการลงทุนในครึ่งปีแรกที่มีทิศทางบวก โดยมีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุน 891 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 18% เป็นเงินลงทุนกว่า 364,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% โดยเป็นการลงทุนใน 3 กลุ่มหลักที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและอาหาร และยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ ที่ขยายตัวมากขึ้น ได้แก่ ไบโอเทคโนโลยี การแพทย์ ดิจิทัล และอากาศยาน
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนยังมีโมเมนตัมที่จะเติบโตได้อีกในระยะ 2-3 ปี โดยปัจจัยหลักของเงินลงทุนโดยตรงที่จะไหลเข้ามาในไทย ประกอบด้วย ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตที่สูง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิากาศ ซึ่งหลายบริทัษตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ความต้องการไฟฟ้าพลังงานสะอาดจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุน การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงเรื่องกติกาภาษีใหม่โลก หรือ Global Minimum Tax ซึ่งจะทำให้มาตรการจูงใจทางภาษีมีผลน้อยลง
โดยปัจจัยเหล่านี้ผลักดันให้เกิด 3 เทรนด์การลงทุนใหม่ ได้แก่ เทรนด์การย้ายฐานผลิตและการกระจายความเสี่ยงการลงทุนเทรนด์การลงทุนสีเขียว และการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ออโตเมชั่น และการผลิตอัจฉริยะ
“นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเจรจากับบีโอไอต่างพูดคุยถึงประเด็นเหล่านี้ ซึ่งไทยเองได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนด้วยปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซัพลายเชน มาตรการส่งเสริมลงทุนจากภาครัฐ ตลาดในประเทศ รวมถึงความมั่งคงปลอดภัยและศักยภาพในการฟื้นตัวได้ดี”