กาญจนบุรี – ฝนตกติดต่อหลายวันทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากปริมาณฝนพื้นที่เหนือเขื่อนฯเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในช่วงกลางเดือนมิถุนายน จนถึงวันนี้ เนื่องจากในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อน มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอสังขละบุรีที่ได้รับอิทธิพลพายุจากทะเลอันดามันส่งผลให้มีฝนตกแทบทุกวัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำทั้ง 3 ได้แก่ แม่น้ำซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี มีระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้มีปริมาณที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมมูลของเขื่อนวชิราลงกรณวันนี้ (12 สิงหาคม 2566) พบว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำที่กักเก็บเพียง 5,390 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60.83% โดยมีปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 2,378 ล้าน.ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ40.66 โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้า 51.95 ล้าน.ลบ.ม ปริมาณน้ำที่ระบายออก 8.0 ล้าน ลบ.ม (โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าในรอบสัปดาห์(5ส.ค-11ส.ค)อยู่ที่615.83 ล้าน.ลบ.ม สามารถรับน้ำได้อีก 3,470 ล้าน.ลบ.ม
ด้าน นายชวลิต กันคำ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เปิดเผยว่าจากอิทธิพลของพายุในทะเลอันดามันที่ยังพัดพาความชื้นเข้ามาในพื้นที่ด้านตะวันตกของประเทศไทยในวันนี้ ส่งผลให้มีผลตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และบางส่วนของอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งน้ำที่ไหลมาเติมปริมาณน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณให้มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งต่อจากนี้หากยังมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม คาดว่าปริมาณน้ำในเขื่อนน่าจะอยู่ที่ 70-80%ของความจุของเขื่อน จะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2567
แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังจำเป็นต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดต่อไป ทั้งภาคครัวเรือน การเกษตร และอุตสาหกรรม
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน