ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
อุบลฯ เลี้ยงหอยหวานน้ำจืดทำเงินเดือนละครึ่งแสน
14 ส.ค. 2566

วันนี้ อปท.ทีวี นิวส์ จะพาไปนำเสนอข่าวสารสำหรับประชาชน   เรื่องปากท้อง อาชีพ การเกษตร ตั้งแต่ระดับรากหญ้า จนถึงนวัตกรรมที่น่าสนใจ สำหรับวันนี้พาคุณผู้ชมไปชมการเลี้ยงหอยหวานญี่ปุ่น หรือหอยหวานน้ำจืด ขายทั้งพ่อแม่พันธุ์และนึ่งขายทำเงินให้คนเลี้ยงเดือนละเกือบครึ่งแสน

บ้านทางสาย ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี อาจารย์เฉลิมชัย วรพิมพ์รัตน์ หรือครูอ๋อย อดีตข้าราชการครูบำนาญ ซึ่งมาปักหลักหลังเกษียณอยู่ที่ ใช้ที่ว่างเปล่าในบ้านพื้นที่กว่า 1 ไร่ ทำเป็นบ่อใช้เลี้ยงหอยรวม 16 บ่อ โดยเล่าที่มาที่ไปว่า ตนเป็นคนชอบกินของพื้นบ้าน และเห็นว่าหอยเชอรี่สีทอง หรือมีหลายชื่อเรียกว่า หอยหวานญี่ปุ่น หอยหวานน้ำจืด หรือหอยเป่าฮื้อน้ำจืด น่าจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจทำเงินได้ จึงนำมาทดลองเลี้ยง ปรากฏเลี้ยงง่าย ให้ผลตอบแทนดีกว่าการเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เพราะต้องคอยดูแลให้อาหารทุกวัน แต่หอยนี้ 2-3 วันค่อยให้หัวอาหารครั้งหนึ่ง และให้ครั้งละไม่มาก เพราะมีอาหารหลักเป็นพืชน้ำ เช่น จอก แหน ผักตบชวา หรือพืชบกจำพวกใบมะละกอ ผักตำลึง  ซึ่งเป็นพืชผักพื้นบ้านหาได้ทั่วไปมาเป็นอาหารหลักให้กับหอยพวกนี้ ปัจจุบันอาจารย์เฉลิมชัย เลี้ยงหอยหวานทั้งสายพันธุ์เปลือกสีโกโก้ และหอยหวานสายพันธุ์เปลือกสีทอง การดูแลความสะอาด ต้องเปิดสปริงเกอร์ใช้ฉีดพ่นน้ำ โดยให้น้ำมีการหมุนเวียน เพื่อความสะอาด พร้อมให้มีแสงแดดธรรมชาติผ่านลงมาที่บ่อใช้เลี้ยงบ้างเล็กน้อย แต่อย่าให้แดดจัดจนเกินไป ส่วนน้ำก็ให้ใช้น้ำจากบ่อบาดาลจะดีที่สุด ถ้าเป็นน้ำประปา ก็ต้องเปิดน้ำขังทิ้งไว้ก่อน 2-3 วัน เพื่อให้คอรีนเจือจาง จึงนำมาใช้เลี้ยงได้อาจารย์เฉลิมชัย เล่าต่อว่า บ่อพ่อแม่พันธุ์จะมีประมาณ 2 พันตัว เพื่อให้ผสมพันธุ์กัน จากนั้นแม่พันธุ์ก็จะวางไข่บนท่อ PVC หรือตามผนังบ่อปูนซีเมนต์ เมื่อครบเวลา 14 วัน ค่อยมาเคลื่อนย้ายไข่ไปอยู่ที่บ่ออนุบาล รอจนอายุ 3-4 เดือน ก็สามารถจับขายได้กิโลกรัมละ 250 บาท ส่วนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ถ้าจะจับขายก็ได้คู่ละ 50 บาท ส่วนของตนมีทั้งขายแบบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และที่เลี้ยงให้โตได้ที่ก็จับออกไปนึ่งขายตามตลาดสด เพราะได้ราคาดี 20 ตัวต่อ 60 บาท ครั้งหนึ่งทำเงินได้ 3,000-4,000 บาท เดือนหนึ่งขายทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ รวมทั้งจับขายแบบเป็นๆ และแบบนึ่งเดือนละกว่า 35,000-40,000 บาท หรือเกือบครึ่งแสนบาทในแต่ละเดือน สำหรับต้นทุนการเลี้ยงหอยชนิดนี้ ต้นทุนก็ต่ำมาก เพราะสามารถขยายพันธุ์ได้รุ่นต่อรุ่น หมุนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเลิกเลี้ยง ส่วนอาหารใช้เลี้ยงมีเพียงหัวอาหารเลี้ยงปลา และพวกผักน้ำพื้นบ้านทั้งจอก แหน ผักตบชวา รวมทั้งผักบกที่เป็นสมุนไพรได้ทั้งหมด สำคัญเวลาเลี้ยงอย่าให้น้ำสกปรก ให้มีน้ำหมุนเวียนอยู่เสมอ เนื้อหอยจะมีรสชาติหอมหวานอร่อย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ไม่เหมือนหอยที่จับตามธรรมชาติ อาจมีสารเคมีตกค้างจากการำไร่ ทำนา ซึ่งฟาร์มของตนปัจจุบันเลี้ยงหอยโตไม่ทันขาย สำหรับเกษตรกรที่ต้องการมีรายได้เสริมเลี้ยงหอยหวานน้ำจืดนี้ สามารสอบถามได้ที่ฟาร์มบ้านทางสาย ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ หรือทักสอบถามที่ Facebook เฉลิมชัย วรพิมพ์รัตน์ หรือโทรสอบถามรายละเอียดที่หมายเลขโทรศัพท์ 085-763-5739 ยินดีให้คำปรึกษา

สุธน ประกอบพร/อุบลราชธานี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...