วันนี้ (29 ส.ค. 60) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายสำคัญให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบบริหารงานภายในจังหวัดและอำเภอ ทั้งทางด้านการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยเบ็ดเสร็จ ประกอบกับในห้วงนี้พบว่า มีข้อร้องเรียนและข้อสอบถามมายังส่วนกลางจำนวนมาก ซึ่งมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของจังหวัดและอำเภอ

            ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานในด้านต่างๆ ในระดับพื้นที่มีประสิทธิภาพ และเกิดสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว กระทรวงมหาดไทยจึงสั่งการให้จังหวัดและอำเภอ ใช้กลไกการประชุมคณะกรมการจังหวัดและอำเภอ เพื่อเร่งรัดติดตามและกำกับดูแลงานในเรื่องสำคัญดังนี้

          1.การเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในด้านต่างๆ ที่จังหวัดและอำเภอต้องรับผิดชอบดำเนินการซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางปฏิบัติไปแล้ว โดยให้ตรวจสอบขั้นตอนการจัดงานและ/หรืองานต่างๆ ที่ได้มอบหมายให้แต่ละส่วนราชการไปปฏิบัติว่า มีความคืบหน้าและ/หรือปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง

          2.การติดตามการใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดและงบประมาณเพิ่มเติม ได้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ อย่างไร อย่าให้เกิดช่องทางการทุจริตรวมทั้งให้มีการตรวจสอบด้วยว่า มีการก่อหนี้ผูกพันไว้ตามโครงการแล้วหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณ 2560 แล้ว

          3.การติดตามและกำกับดูแลการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ตั้งแต่ต้นปี 2560 ในพื้นที่ต่างๆ ได้มีการดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบฯ ครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งการสำรวจความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ และขอให้ติดตามการดำเนินงานตามโครงการ 9101 ว่า มีการอนุมัติให้ดำเนินการไปแล้วตามขั้นตอนอย่างไร และมีผลการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการหรือไม่ เช่น ประชาชนในพื้นที่ได้รับค่าจ้างแรงงานถูกต้องตามที่โครงการกำหนดไว้หรือไม่ และ/หรือได้ปุ๋ยอินทรีย์ครบถ้วนตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ตามโครงการอย่างไรหรือไม่ เป็นต้น

          4.ขอให้ตรวจสอบงานอนุมัติ/อนุญาตตามกฎหมายต่างๆ ที่จังหวัด/อำเภอต้องเป็นผู้อนุมัติ หรืออนุญาต ว่ามีเรื่องค้างการพิจารณาหรือไม่ พิจารณาอนุมัติ/อนุญาตแล้วกี่เรื่อง ได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบถึงสิทธิต่างๆ แล้วหรือไม่ ซึ่งมีงานตามกฎหมายสำคัญ ได้แก่ การอนุญาตตาม พระราชบัญญัติโรงแรม/สถานบริการ/การค้าของเก่า/การอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ/ พระราชบัญญัติสัญชาติ/ เครื่องมือประมง/ การจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม/ การจัดสรรที่ดินหรือค้าที่ดิน/ การอนุญาตดูดทราย/ การอนุญาตตามพระราชบัญญัติการพนันฯลฯ ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ มีการร้องเรียนเข้ามาในส่วนกลางเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอได้ลงไปตรวจติดตามผลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดปัญหาร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างเด็ดขาด

          5.การสร้างการรับรู้ในเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหรือโครงการต่างๆ ของรัฐ โดยให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยให้มีการสร้างข่าวหรือเผยแพร่ข่าวเท็จตามช่องทางต่างๆ ซึ่งหากมีกรณีเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัด/อำเภอนั้น ขอให้ดำเนินการแก้ไขหรือสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องตามแนวทางที่ได้แจ้งไปแล้ว

          ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยเชื่อมั่นว่า การใช้เวทีหรือกลไกการประชุมคณะกรมการจังหวัด/อำเภอ หรือที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด/อำเภอเพื่อติดตามเร่งรัดการปฏิบัติงานและสร้างความเข้าใจในพื้นที่นั้น จะสามารถช่วยให้การบริหารงาน การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาต่างๆของจังหวัด/อำเภอ ได้รับการดูแลแก้ไขได้ดีขึ้นอย่างจริงจังต่อเนื่อง เกิดความราบรื่นเรียบร้อยและเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองโดยรวมตามยุทธศาสตร์ชาติอย่างแท้จริง.