นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจากการติดตามสถานการณ์การค้าในต่างประเทศ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมาล่าสุดได้รับรายงานจากนายปิติชัย รัตนนาคะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงโอกาสที่ไทยส่งออกสินค้ามายังตลาดตลาดเครื่องสำอางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยทูตพาณิชย์ รายงานว่า ตลาดสินค้าเครื่องสำอางในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีศักยภาพ และเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยในการขยายการค้ามายังประเทศนี้ รวมทั้งเป็นตลาดส่งออกต่อไปประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยในภาพรวมผู้หญิงอาหรับให้ความสำคัญกับสินค้าเครื่องสำอาง
สินค้าไทยที่มีแนวโน้มเจาะตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มากขึ้น คือ เครื่องสำอางประเภทสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากสินค้าของประเทศอื่นๆ เพราะนอกจากเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าแล้ว เครื่องสำอางสปาและสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาตินั้นได้รับความนิยมในประเทศนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับตลาดเครื่องสำอางในตลาดโลกที่หันมาใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น
โดยกลุ่มตลาดเป้าหมายสำหรับสินค้าไทยยังเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งผลิตภัณฑ์ ต้องคำนึงถึงคุณลักษณะตอบสนองความต้องการในด้านต่างๆ เช่น ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ให้ความชุ่มชื่นผิว ป้องกันรังสีจากแสงแดด/มลภาวะ และชะลอวัย มีการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอยู่เสมอ และบรรจุภัณฑ์มีความสวยงาม ทันสมัย สีสันที่ดึงดูดใจน่าใช้และสะดวกต่อการใช้งานด้วย
ทั้งนี้ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์รักษาผิวที่ไทยส่งออกไปยูเออีปี 2565 มูลค่า 1,504 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 25.5 และในปี 2566 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 579.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.0 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า สำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางที่ไทยส่งออกมาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรียงตามมูลค่า ได้แก่ เครื่องสำอางบำรุงผิว แต่งหน้า ยาสระผม ยาสีฟัน สารที่มีกลิ่นหอมน้ำหอม ครีมโกนหนวด และน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น