พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพิ่มเติม จากเดิมที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง, ประธานสภานิติบัญญัติเป็นชาติ เป็นรองประธานกรรมการโดยตำแหน่ง โดยให้แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการเพิ่มอีกหนึ่งคน
นอกจากนี้ยังมีกรรมการโดยตำแหน่ง 13 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, ประธานกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ, ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ประธานสมาคมธนาคารไทย
ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ อีกไม่เกิน 17 คน ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบแล้ว 12 คน ได้แก่ ด้านความมั่นคง/ด้านการเมือง/ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, ด้านเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นายชาติศิริ โสภณพนิช, ด้านสังคม นายบัณฑูร ล่ำซำ นายกานต์ ตระกูลฮุน, ด้านการศึกษา นายเทียนฉาย กีระนันทน์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์, ด้านสาธารณสุข นายพลเดช ปิ่นประทีป, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง, นายวิษณุ เครืองาม, นายอุตตม สาวนายน โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ลำดับที่ 13-17 จะได้พิจารณาแต่งตั้งในโอกาสต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม เป็นตัวแทนมาร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.) เพื่อกำหนดกฎกติในการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปว่าจะประชุมที่ไหน กำหนดเบี้ยประชุมอย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 12 คนจากทั้งหมด 17 คนว่า มีผู้มีความสามารถสมัครใจเข้าเป็นกรรมการจำนวนมาก แต่จะต้องมีการคัดกรองผู้เหมาะสม และในจำนวนนี้อาจต้องมีทหารเข้ามาทำหน้าที่บ้าง เนื่องจากจะต้องเข้ามาขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ชาติใน 6 ด้าน และมีคนจากหลายภาคส่วนมาช่วยกันทำงานด้านปฏิรูป เพื่อกำหนดการเดินหน้าของประเทศ ให้เชื่อมโยงกับงานปฏิรูปประเทศที่ต้องทำทุกๆ 5 ปี