ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ไม่พลิก เศรษฐา ทวีสิน ผงาดนั่งนายกคนที่ 30 ตามคาด
22 ส.ค. 2566

การประชุมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยที่ประชุมมีการอภิปรายกันอย่างดุเดือด
จนกระทั่งเวลา 15.10 น. ประธานรัฐสภา ได้ประกาศปิดการอภิปราย เพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการโหวตนายกฯ โดยมีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียว โดยมีการเริ่มโหวตในเวลา 15.24 น.
ต่อมาในเวลา 16.05 น. หลังจากที่มีการลงคะแนนของสมาชิกรัฐสภาผ่านไปเพียง 319 คน พบว่าแนวโน้มเสียงสนับสนุน โดยเฉพาะของสว. ที่เห็นชอบในการลงมติโหวตนายเศรษฐาเป็นนายกฯมีเข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ทำให้นายเศรษฐา ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.รวมกับเสียงตั้งต้นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง เป็น 380 เสียง แล้ว ทำให้นายเศรษฐาได้รับเสียงสนับสนุนในการการโหวตให้เป็นนายกฯคนที่ 30 เกินกึ่งหนึ่ง  

สำหรับประวัติ เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน ชื่อเล่นว่า นิด หรือคนชอบเรียกว่า เสี่ยนิด เศรษฐา เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 สมรสกับ แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญความงามด้านผิวพรรณ มีบุตรด้วยกัน 3 คน จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ-การเงิน Claremont Graduate School ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประวัติการทำงาน เศรษฐา ทวีสิน
เริ่มการทำงานในปี พ.ศ. 2529 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท P&G ประเทศไทย (จำกัด) ปัจจุบันทำงานตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยก่อนหน้านี้เคยรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท แสนสิริ มาก่อน
ธุรกิจของ “เศรษฐา ทวีสิน”
บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)  ธุรกิจเกี่ยวกับด้านการเงิน การลงทุน
บริษัท คิวที ไลฟ์สไตล์ จำกัด ธุรกิจซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์การให้เช่าแบบลิส
บริษัท สิริพัฒน์ เซเว่น จำกัด ธุรกิจซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่ออยู่อาศัย
บริษัท สิริพัฒน์ ไฟฟ์ จำกัด ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท
บริษัท สุรช จำกัด ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษ  
เศรษฐา ทวีสิน เคยให้สัมภาษณ์กับทางมติชนออนไลน์ ไว้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2566 และจะสามารถเปลี่ยนประเทศไทยได้ ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องออกมาใช้สิทธิ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศมีระบอบประชาธิปไตย ผู้นำที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องเป็นคนที่เข้าใจถึงความต้องการของประชาชน ซึ่งการจะมีความเข้าใจได้ จะต้องเป็นผู้นำที่เข้าถึงได้ แต่ในแง่ของการปฏิบัติถ้าเกิดจะเข้าถึงได้กับคน 69 ล้านคนก็ลำบาก แต่ในระบบมีสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 500 คน การที่ให้ ส.ส.เข้ารับฟังปัญหากับประชาชนแบบตั้งใจฟังในการแก้ไขปัญหา ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ ส.ส.คือตัวแทนของประชาชน การเข้าถึงได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง
โดยแนวคิดด้านการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ทั้งด้านการบริหาร ด้านเศรษฐกิจ สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน วิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ได้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นตัวเต็งแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับ แพทองธาร ชินวัตร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...