ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
เมืองไทยใหญ่เลี้ยงนกกระทากมีรายได้ดีวันละ1,300 - 1,500 บาท
23 ส.ค. 2566

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จากพิษโควิด-19 สู่อาชีพเสริม เลี้ยงนกกระทา เพื่อเก็บไข่ขาย สร้างรายได้เดือนให้กับครอบครัวได้ทุกวัน หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ววันละ 1,300-1,500 บาท ส่วนมูลขี้นก ก็ส่งขายให้ชาวบ้านที่มาซื้อไปใส่ต้นข้าวกระสอบละ 100 บาท สำหรับนกที่ปลดระวางก็สามารถขายเป็นนกเนื้อตลาดเอาไปทอดขายได้อีกกิโลกรัมละ 60 บาท 

เมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกเจอวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียอาชีพที่เคยใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เช่นเดียวกับ คุณประภัสสร จันสาขะ หรือพี่แปลง เจ้าของ อ.เพิ่มพูนทรัพย์ฟาร์ม หมู่ 3 ตำบลสระสมิง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตนนั้นเป็นแม่ค้าขายบาร์บีคิว หม่าล่า ปลาหมึกย่างตามตลาดนัด ต้องประกอบอาชีพไม่ได้ เพราะถูกคำสั่งทางการห้ามรวมตัวประกอบอาชีพตามตลาดนัด แต่ครอบครัวยังมีค่าใช้จ่าย เลยลองค้นหาอาชีพที่พอทำได้ ก็เจอกับอาชีพเลี้ยงนกกระทาขายไข่ จึงนำมาทดลองเลี้ยง เพื่อหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัว 4 ชีวิต การเริ่มเลี้ยงตอนแรก ทดลองซื้อแม่พันธุ์นกกระทามาเลี้ยงราว 200 ตัว สามารถเก็บไข่มาต้มเร่ขายตามหมู่บ้านได้วันละ 200-300 บาท ถือว่าพอเป็นทุนให้มีเงินใช้จ่ายไปในแต่ละวัน ก็เลยเพิ่มการเลี้ยงขึ้นเรื่อยๆ หวังให้มีรายได้เข้ามามากขึ้น จนวันเวลาผ่านไป สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดเริ่มดีขึ้น จึงยึดอาชีพเลี้ยงนกกระทาขายไข่สร้างรายได้เสียเลย พร้อมขยายโรงเลี้ยงจากเดิม 500 ตัว เป็นหลายพันตัว ก็มีปัญหาเรื่องของตลาด เพราะปริมาณไข่นกกระทาล้นปริมาณความต้องการของตลาดตามหมู่บ้าน จึงต้องหาตลาด และทำเป็นขายส่งแทนการเร่ขายเหมือนช่วงแรก ก็เลยส่งขายในตลาดค้าส่งตลาดเจริญศรี อำเภอวารินชำราบ แต่ช่วงแรกโควิดยังไม่จางหายดี ทำให้ยอดขายไม่มาก 2 วันต่อ 2,000 ฟองๆละ 90 สตางค์ ก็พอมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 400-500 บาท จนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคลี่คลายลง และตลาดเปิดค้าขายได้อย่างเต็มที่ มีความต้องการไข่มากขึ้นวันละไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ฟอง ก็เลยขยายการเลี้ยงเป็นเป็น 7,000 ตัว มีรายได้จากการเก็บไข่ขายหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ววันละ 1,300-1,500 บาท นอกจากขายไข่แล้ว มูลขี้นกกระทา ก็ยังเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดี ก็เก็บมูลขี้นกส่งขายให้ชาวบ้านที่มาซื้อไปใส่ต้นข้าวกระสอบละ 100 บาท สำหรับนกที่ปลดระวางก็สามารถขายเป็นนกเนื้อตลาดเอาไปทอดขายได้อีกกิโลกรัมละ 60 บาท พูดได้ว่า เลี้ยงนกกระทานี้ ขายตั้งแต่เป็นไข่ของนกวัยหนุ่มสาว จนถึงเป็นนกแก่อายุประมาณ 1 ปี ก็ปลดระวางขายเป็นเนื้อ สามารถเลี้ยงดูครอบครัว จนลูกๆเรียกจบการศึกษาไปแล้ว 1 คน สำหรับวิธีการเลี้ยงนกกระทานี้ ก็ไม่ยาก เพราะนกไม่ค่อยป่วย  แต่เป็นนกที่กินจุ คือ กินได้ทั้งวัน จึงต้องให้อาหารอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น โดยช่วงเย็นต้องให้หัวอาหารเผื่อไว้ในรางอาหาร เพราะถ้านกกินไม่อิ่มก็จะไม่ไข่ พร้อมให้เปิดพัดลมระบายอากาศตลอดเวลา เพราะถ้าอากาศร้อน ทำให้นกหงุดหงิดก็จะไม่ไข่เช่นเดียวกัน ช่วงกลางคืนก็ให้เปิดไฟไว้ให้ด้วย นกจะมีสุขภาพดี หากต้องการเลี้ยงหรือหาลู่ทางสร้างอาชีพขอคำปรึกษาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-644-7941


สุธน ประกอบพร/อุบลราชธานี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...