นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสินค้าของ “โมบายพาณิชย์” ว่า การเปิดจุดจำหน่ายในครั้งนี้ มีความพิเศษโดยได้นำมังคุดภาคใต้ ส่งตรงจากพี่น้องเกษตรกร มาจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประชาชนสามารถหาซื้อได้ที่โมบายพาณิชย์จำนวน 100 จุด ซึ่งจะหมุนเวียนกันไป ซึ่งนอกจากจะมีมังคุดอร่อยแล้ว ยังมีสินค้าอีก 6 หมวดไม่ว่าจะเป็นอาหาร ซอสปรุงรส ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจำวัน และยารักษาโรค ลดสูงสุดถึง 58% เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนด้วย
“กรมได้เดินหน้าช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน โดยนำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ราคาประหยัดมาจำหน่ายหมุนเวียนกันไป และมีสินค้าพิเศษ ทั้งไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช ข้าวสาร ตลอดจนผลไม้ตามฤดูกาลมาจำหน่ายด้วย โดยก่อนหน้านี้เป็นมะม่วง ครั้งนี้เป็นมังคุดภาคใต้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ช่วยกันซื้อ ช่วยกันบริโภค เพราะปีนี้มังคุดภาคใต้มีคุณภาพดี รสชาติอร่อย โดยขณะนี้ผลผลิตออกแล้วกว่า 60% เหลืออีกไม่มาก ก็จะหมดฤดูกาลแล้ว โดยสามารถค้นหาจุดจำหน่ายได้ที่ @mobilepanich หรือ Line@Mr.dit” นายวัฒนศักย์กล่าว
ทั้งนี้ ผลจากการที่กรมได้ประสานผู้ประกอบการ ทั้งผู้ส่งออก ล้ง ผู้รวบรวม ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อมังคุดรุ่น 2 จากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ได้ช่วยผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด เกรดมันใหญ่อยู่ที่ 43-62 บาท/กิโลกรัม (กก.) เกรดมันเล็กอยู่ที่ 24-35 บาท/กก. ส่วนที่พี่น้องเกษตรกรขายตามข้างทาง เกรดมันรวมอยู่ที่ 45-60 บาท/กก. เกรดคละอยู่ที่ 25-40 บาท/กก. และดำ 20-25 บาท/กก. ซึ่งราคาสูงกว่าปีที่แล้วปีที่แล้วค่อนข้างเยอะ
นอกเหนือจากการระบายผลผลิตมังคุดผ่านโมบายพาณิชย์ กรมยังได้ประสานห้างท้องถิ่น ช่วยซื้อมังคุดจากเกษตรกรจำนวน 1,000 ตัน ไปจำหน่ายผ่านสาขาของห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ 120 สาขา มีทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวม 32 จังหวัด
เพื่อช่วยระบายมังคุดให้กับเกษตรกร และช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสในการบริโภคมังคุด ส่วนจังหวัดที่เหลือ สามารถหาซื้อมังคุดได้ในห้างค้าส่งค้าปลีก ที่ได้มีการรับซื้อมังคุดจากเกษตรกรไปจำหน่ายด้วย
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า สำหรับกรณีกระแสข้าวเหนียวขึ้นราคา ขอชี้แจงว่า ในช่วงที่ผ่านมา ข้าวเหนียวส่วนใหญ่ 50% พี่น้องเกษตรกรจะเก็บไว้รับประทานเอง และอีก 50% จะจำหน่ายในประเทศ จะไม่มีการส่งออก บริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
แต่เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้ง ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความกังวล จึงไม่นำข้าวในยุ้งฉางมาจำหน่าย แต่ในช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกลงมา ทำให้พี่น้องเกษตรกรคลายกังวล และได้นำข้าวในยุ้งฉางเริ่มออกมาจำหน่ายแล้ว ตอนนี้ถือว่าพี่น้องเกษตรกร ขายข้าวได้ราคาดี ซึ่งสถานการณ์ปัญหาตอนนี้ น่าจะไม่นาน เพราะจะเข้าล็อตใหม่ที่ผลผลิตจะเก็บเกี่ยวกันแล้วในช่วงปลายกันยายน ถึงต้นตุลาคมนี้ และคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ สถานการณ์ในปีนี้ ไม่ได้เลวร้ายเท่ากับปี 2562
“กรมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องของภัยแล้ง กระทรวงพาณิชย์ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด เพื่อจะดูแลปริมาณสินค้าข้าวสารให้มีปริมาณเพียงพอ แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องห่วง เพราะว่าประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เชื่อว่าข้าวมีเพียงพออย่างแน่นอน”นายวัฒนศักย์กล่าว