ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
เบื้องลึกบอร์ดบีบผู้ว่ากปภ.ออกเหตุไม่ต่อสัญญาซื้อน้ำหมื่นล้าน
26 ส.ค. 2566

มีรายงานข่าวจากกปภ.ระบุว่า นายวิบูลย์ วงสกุล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ต่อ นายธนาคม จงจิระ ประธานกรรมการ (บอร์ด) กปภ. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.2566 เป็นต้นไป ขณะที่ นายวิบูลย์ ให้เหตุผลถึงการยื่นหนังสือลาออกว่า ‘มีปัญหาสุขภาพ’ แต่การยื่นหนังสือลาออกของ นายวิบูลย์ ในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงเรื่องปัญหาด้านสุขภาพเท่านั้น แต่สาเหตุหลักนายวิบูลย์ มาจากการที่ นายวิบูลย์ ถูกกรรมการ กปภ. กดดันให้เจรจากับเอกชนคู่สัญญา ‘รายเดิม’ ในการต่อสัญญาโครงการเอกชนร่วมลงทุนปรับปรุงขยายการประปาปทุมธานี-รังสิต อีก 10 ปี ที่ผ่านมานายวิบูลย์ถูกกดดันจากบอร์ด กปภ. ให้ไปเจรจาต่อสัญญาฯกับรายเดิม ซึ่งล่าสุดในการประชุมบอร์ด กปภ. เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ กปภ. คนหนึ่ง พูดว่า กปภ.ต้องเจรจากับรายเดิมก่อน ซึ่งเป็นกระบวนการตามสัญญา ถ้าไม่ดำเนินการ เอกชนอาจฟ้องร้องได้ จากนั้นกรรมการฯ คนหนึ่ง พูดขึ้นมาว่า บอร์ดฯมีมติให้ผู้ว่าฯไปดำเนินการแล้ว แต่เมื่อผู้ว่าฯไม่รับดำเนินการ ก็ต้องปลดผู้ว่าฯ แล้วแต่งตั้งคนใหม่”

สาระสำคัญอยู่ที่ ‘การประชุมคณะกรรมการ กปภ.’ ครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2566 ที่ผ่านมาในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2566 คณะกรรมการ กปภ. ได้หารือกันถึงกรณีที่ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (PTW) ซึ่งเป็น ‘คู่สัญญารายเดิม’ ใน 'โครงการเอกชนร่วมลงทุนปรับปรุงขยายการประปาปทุมธานี-รังสิต' ยื่นขอเจรจาเพื่อต่อสัญญาโครงการฯให้กับ กปภ. ข้อมูลระบุว่าโดยในช่วงต้นของการหารือนั้น รองผู้ว่าฯ กปภ.คนหนึ่ง ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณี PTW ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอเจรจาต่อสัญญาโครงการประปาปทุมธานี-รังสิต  ซึ่งหลังจากชี้แจงแล้ว ประธานกรรมการ กปภ.นายธนาคม จงจิระ ให้ความเห็นว่า หาก กปภ. ให้บริษัทฯเข้ามาเจรจา ก็น่าจะจบประเด็นที่บริษัทฯข้องใจได้ ก่อนที่ รองผู้ว่าฯ กปภ.รายนี้ จะชี้แจงต่อไปว่า ในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. ครั้งที่ 8/2566 มีการเสนอในที่ประชุมฯ ว่า หากบริษัทฯ (PTW) เสนอค่าจ้างผลิตน้ำที่ 5 บาท/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จะให้ กปภ. ดำเนินการอย่างไร ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ กปภ. ครั้งนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า “จะติดขัดในประเด็นด้านกฎหมาย” จึงมีมติว่า “ไม่ยินยอม” ซึ่งประธานกรรมการ กปภ.นายธนาคม จงจิระ ได้พูดว่า หากในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. ในครั้งนั้น มีการเสนอว่าให้ไปพูดคุยกับบริษัทฯ (PTW) ก็น่าจะจบแล้ว แต่ทั้งนี้ ก็เป็นดุลพินิจของ ผู้ว่าฯ กปภ.นายวิบูลย์ วงสกุล ที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้

ด้านผู้ว่าฯ กปภ. เสนอต่อที่ประชุมว่า ขอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กปภ. ออกเสียงลงมติเป็น ‘รายบุคคล’ ว่า ในเรื่องนี้ (การเจรจาต่อสัญญาซื้อน้ำ) คณะกรรมการ กปภ. จะให้ดำเนินการอย่างไร เพราะหากจะหารือกันต่อไป ก็คงจะหาข้อสรุปไม่ได้ เนื่องจากมีมุมมองที่แตกต่างกัน

แต่ ประธานกรรมการ กปภ.นายธนาคม จงจิระเห็นว่า เนื่องจากการประชุมมี กรรมการ กปภ. 'ไม่ครบองค์ประชุม' ดังนั้น หากให้ออกเสียงลงมติเป็นรายบุคคล ก็จะได้เสียงจากกรรมการบางคนเท่านั้น

 “ฝ่ายบริหารคิดเองว่า ไม่มีอำนาจเจรจา จึงทำให้เจรจาไม่ได้ แต่กระบวนการที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นแล้ว คือ การเจรจา ทาง กปภ. ไม่จำเป็นต้องไปสนองบริษัทฯ เนื่องจากสัญญาไม่ใช่คำมั่น แต่ต้องทำให้ครบถ้วนกระบวนการตามสัญญา หากดำเนินการไม่ครบ ทางบริษัทฯ อาจจะฟ้องร้องได้” กรรมการ กปภ. รายนี้ ระบุ

จากนั้น ประธานกรรมการ กปภ. นายธนาคม จงจิระ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว มีความกังวลในเรื่องนี้ว่า ทาง กปภ. ควรดำเนินการอย่างไร

ขณะที่ กรรมการ กปภ. รายนั้น ได้กล่าวเสริมว่า “จะให้ดำเนินการอย่างไรได้ คณะกรรมการ กปภ. มีมติให้ ผวก. (ผู้ว่าการฯ) ไปดำเนินการ แต่ ผวก. ไม่รับดำเนินการ ก็ต้องปลด ผวก. แล้วแต่งตั้ง ผวก. คนใหม่”

เมื่อกรรมการ กปภ. รายดังกล่าว พูดจบ ผู้ว่าฯ กปภ. นายวิบูลย์ วงสกุล พูดในที่ประชุมว่า “ไม่ใช่ว่า คณะกรรมการ กปภ. สั่ง ผวก. แล้ว ผวก. ไม่รับดำเนินการ แต่ได้มีการนำเสนอในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. ครั้งต่อมาแล้วว่า มีข้อเท็จจริงตามที่ได้แจ้งไปแล้ว”

ก่อนที่ กรรมการ กปภ. รายนั้น จะพูดต่อว่า “ท่านธนาคม จงจิระ (ประธานกรรมการ กปภ.) ได้สอบถามว่า จะให้ดำเนินการอย่างไร ก็ชี้แจงตามข้อชักถามของท่านธนาคม จงจิระ เมื่อคณะกรรมการ กปภ. มีข้อสั่งการแล้ว ทาง ผวก. ไม่รับดำเนินการ จะให้คณะกรรมการ กปภ. ดำเนินการอย่างไร”

ทำให้ ผู้ว่าฯ กปภ. นายวิบูลย์ วงสกุล ต้องชี้แจงในที่ประชุมอีกครั้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. แต่ละครั้ง หากข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ตนต้องนำมารายงานในการประชุมคณะกรรมการ กปภ. แต่หากจะสั่งปลด ตนก็ไม่มีข้อกังวลใด แต่ที่ต้องแจ้งให้ที่ประชุมทราบ คือ หากให้บริษัทฯเช่าหรือต่ออายุการประกอบการแล้วจะเสี่ยงขัดกฎหมาย

“หากท่านจะปลดผม ก็ไม่มีข้อกังวล แต่ผมก็ต้องแจ้งคณะกรรมการ กปภ. ว่า การให้บริษัทฯเช่า เพื่อต่ออายุประกอบการจะมีความเสี่ยงในการดำเนินงานที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2562 และขัดต่อข้อแนะนำของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งก็ได้นำเรียนคณะกรรมการ กปภ. รับทราบ เพื่อให้มีข้อมูลใช้ในการตัดสินใจร่วมกัน

ไม่ได้มีเจตนาขัดคำสั่งแต่อย่างใด หากท่านคิดว่า ผมขัดคำสั่ง แล้วท่านจะปลด ประเด็นนี้เป็นเอกสิทธิ์ของท่าน แต่ผมได้เรียนข้อเท็จจริง เพื่อเป็นการให้ข้อมูล และเพื่อปกป้องคณะกรรมการด้วยซ้ำว่า ซึ่งในการประชุมครั้งถัดมา (ครั้งที่ 8/2566) ก็มีความเห็นว่าให้ กปภ. ไปรับฟังข้อเสนอของบริษัทฯ มาผมเห็นข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ผมมีหน้าที่มารายงานให้คณะกรรมการ กปภ. รับทราบ แล้วตัดสินใจร่วมกัน ฉะนั้น หากผมไม่รายงานข้อมูลอะไรเลย ไม่แจ้งคณะกรรมการ กปภ. ว่า มีความเสี่ยงในการดำเนินงานอะไรบ้าง การกระทำเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมากกว่า” ผู้ว่าฯ กปภ. ระบุในที่ประชุม

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...