นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุในลักษณะว่า ไม่สามารถที่จะพิจารณาคดีลับหลังและไม่สามารถที่จะอ่านคำพิพากษาลับหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯในกรณีโครงการรับจำนำข้าวได้นั้นว่า คงเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งโดยหลักแล้วกรณีที่จำเลยได้หลบหนีคดีไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีอาญา เมื่อศาลท่านได้ออกหมายจับและถ้าจับตัวจำเลยมาไม่ได้ภายในหนึ่งเดือน ศาลก็สามารถที่จะดำเนินการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งในเรื่องอ่านคำพิพากษาขณะนี้ อย่าคาดการณ์เพราะเป็นกระบวนการของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งได้อยู่ในกระบวนการของศาลอยู่แล้ว จึงอย่าได้กังวลใดๆ โดยขอให้เป็นหน้าที่ของศาล ทั้งนี้ ตนมีประเด็นที่อยากเรียกร้องให้ รัฐบาลได้ช่วยตรวจสอบดูแลกรณีที่มีการละเมิดอำนาจศาล ดูหมิ่นศาล ซึ่งในเวลานี้มีเกิดขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่เสมือนหนึ่งว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินโดยไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์และโลกโซเชี่ยลในอินเตอร์เน็ตก็มีการกล่าวหาในลักษณะที่ไม่ให้เกียรติศาลฯ ฉะนั้นควรที่ต้องหาทางที่จะช่วยเหลือปกป้องอำนาจตุลาการบ้าง ทั้งที่กฎหมายในเรื่องการปกป้องอำนาจตุลาการก็มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดูหมิ่นศาล และเรื่องละเมิดอำนาจศาล แต่เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ช่วยกันสอดส่องดูแลหรือปกป้องฝ่ายตุลาการ ซึ่งหากมีใครพบเห็นการกระทำที่เป็นการละเมิดหรือดูหมิ่นศาลก็สามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ได้ รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นเสาหลักหนึ่งของ3 อำนาจที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐเช่นกัน