เด็กโคราชตัวแทนประเทศไทยสุดเจ๋งคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ1 บนเวที UDO streetdance world championship 2023 ซึ่งจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 24-27ส.ค.66
ที่เมืองแบล็คพูลซิตี้ ประเทศอังกฤษ มีทีมที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 30 ประเทศจากทั่วโลก ซึ่งทีมจากประเทศไทยคือทีม Elegant dance team ประกอบไปด้วยสมาชิกในทีมทั้งหมด 8 คน ดังนี้
1. ด.ญ.พิชชานันท์ เตชะเทียมจันทร์ จากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศนครราชสีมา
2. ด.ญ.ตติญช์ญดา เชาวน์ดี จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา
3. ด.ญ.สาริศา ราชนาวี จากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศนครราชสีมา
4. ด.ญ.ตติญช์ญวดี เชาวน์ดี จากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศนครราชสีมา
5. ด.ญ.สิปาง สินธนานิธิ จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา
6. ด.ญ.กีรติกร หาญบรรลือ จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา
7. น.ส.จิลลาวัณย์ แสงทรัพย์ จากโรงเรียน St.John bosco
8. น.ส.ปวริศา หวานสูงเนิน โรงเรียนสารสาสน์วิเทศนครราชสีมา
ซึ่งเด็กๆสามารถ กวาดรางวัลมาได้ทั้งหมด 9 รางวัล แต่มีรางวัลหลักๆดังนี้
-รางวัลชนะเลิศ ประเภท Team performance under 14 Elegant Juniors
-ชนะเลิศประเภททีม Super crew GDAT-Boogie
-รางวัลรองชนะเลิศ DUO under 14, Duo under18 5 place
-รองชนะเลิศประเภท Soloรุ่นUnder 12และ Under 16,Under 18 5 place
จากการสอบถาม น.ส.นัยน์ปพร แสงทรัพย์ หรือครูปิงปอง หัวหน้าโค้ชและผู้จัดการสถาบัน EDA นครราชสีมา เล่าว่าในการเข้าแข่งขันในครั้งนี้ยังมีมีนายธีรพงษ์ เทียนหลง ครู T9 เป็นผู้ฝึกสอนและออกแบบท่าเต้นให้กับเด็กๆ โดยเด็กๆที่เข้ามาเรียนทั้งหมดเป็นลูกหลานคนโคราช ที่รักในการเต้นโดยเด็กๆจะใช้เวลาในช่วงหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ในการฝึกซ้อม โดยใช้เวลาฝึกซ้อมเป็นเวลา 90 วัน การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นความใฝ่ฝันของเด็กๆที่จะไปแข่งขันระดับโลกเพื่อเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยให้คนทั้งโลกได้รู้จัก โดยมีทีมที่ส่งเข้าแข่งขันทั้งหมดจาก 30 ประเทศทั่วโลก โดยทุกทีมก็แสดงความสามารถของแต่ละทีมอย่างเต็มที่ ผลการตัดสินปรากฏว่าทีม Elegant dance team ซึ่งเป็นทีมตัวแทนจากประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน UDO streetdance world championship 2023 ได้เป็นแชมป์โลก ทุกคนต่างตื่นเต้นและดีใจที่สุดที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้เห็นความสามารถของเด็กไทยและเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับชาวจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย สมกับที่เป็นหลานย่าโมวีรสตรีที่คนโคราชเคารพนับถือ ทุกคนต่างดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหวที่เห็นธงชาติไทยโบกสบัดอบู่บนเวทีระดับโลก และคณะจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 1 ก.ย. 66 เวลาประมาณ 15.00 น.ครูผู้ฝึกสอนกล่าว