ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
ชู โคกเคียนโมเดล แก้ไขใช้วิธีสหกรณ์ฟื้นฟูสวนยางพารายั่งยืน
03 ก.ย. 2566

“โคกเคียนโมเดล” ต้นแบบน้อมนำหลักการทรงงาน “ระเบิดจากข้างใน” ร่วมคิดร่วมทำร่วมแก้ไขใช้วิธีการสหกรณ์ฟื้นฟูสวนยางพารา สร้างรายได้ยั่งยืน

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชมสหกรณ์ชาวสวนบ้านโคกเคียน จำกัด จังหวัดนราธิวาส ใช้ “โคกเคียนโมเดล” แก้ไขปัญหาใบยางพาราร่วงรุนแรง พร้อมกับการฟื้นฟูแปลงยางพาราให้สมบูรณ์ มีความแข็งแรง สามารถต้านโรคได้ดีขึ้น ยืดระยะเวลาการเก็บเกี่ยว สมาชิกสหกรณ์มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย

นายอัชฌา สุวรรณ์นิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์ชาวสวนบ้านโคกเคียน จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยมี นายณัฐกิตติ์ ปิ่นทอง ประธานกรรมการฯ คณะกรรมการ และสมาชิกสหกรณ์ ให้การต้อนรับ

“ขอชื่นชมสหกรณ์ที่พึ่งพาตนเองและมีการคิดนอกกรอบ ซึ่งผู้นำกลุ่มถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนงาน และจะต้องมีการดูแลความสะอาดของต้นยาง แปลงยางพาราผ่านขบวนการที่ทางกลุ่มไปศึกษาด้วยตนเอง รวมทั้งนำนวัตกรรมสร้างภูมิคุ้มกันให้ยาง มีการบริหารจัดการกลุ่มจนประสบความสำเร็จในหลายโครงการผ่าน “โคกเคียนโมเดล” ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบให้กับจังหวัดนราธิวาสนำไปขยายผลในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขอให้คณะกรรมการ และสมาชิกสหกรณ์ร่วมมือกันพัฒนาสหกรณ์แห่งนี้ให้เติบโต และเป็นสหกรณ์ต้นแบบในการร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือพี่น้องสมาชิก พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส พร้อมสนับสนุนกิจกรรมของสหกรณ์ในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรสมาชิกต่อไป” นายอัชฌา กล่าว

ด้านนายณัฐกิตติ์ ปิ่นทอง กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาพื้นที่นราธิวาส โดยเฉพาะตำบลโคกเคียน ประสบปัญหาโรคใบร่วงยางพารา ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบ จึงเกิดเป็น “โคกเคียนโมเดล” โดยน้อมนำหลักการทรงงาน “ระเบิดจากข้างใน” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชดำรัสไว้ มาปรับใช้ในหมู่มวลสมาชิก จนประสบความสำเร็จเป็นโมเดลต้นแบบให้กับจังหวัดนราธิวาสนำไปขยายผลในหลายพื้นที่ เริ่มจากสำรวจเก็บข้อมูลพื้นฐานรายแปลง ทำการเชื่อมโยงกับข้อมูลการซื้อขาย มีการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ นำไปสู่การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของสหกรณ์ที่เกิดจากการความกันคิด ร่วมกันทำ แก้ไขปัญหาตามวิธีการสหกรณ์ ร่วมกันกำหนดรูปแบบการดำเนินการช่วยเหลือสมาชิก กิจกรรมการฟื้นฟูแปลงยางพาราให้มีความสมบูรณ์ ทดลองใช้สารชีวภาพ ตรวจวิเคราะห์และปรับสภาพดิน จัดการแปลงให้โล่งเตียน ทำปุ๋ยหมักในแปลงยาง ใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาเพื่อควบคุมเชื้อโรคในดิน การให้ปุ๋ยทางใบเพื่อฟื้นฟูต้นยางพาราด้วยโดรน ส่งเสริมให้สมาชิกใช้ปุ๋ยจากมูลไส้เดือน นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิความชื้นเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศก่อนหว่านปุ๋ยทุกครั้ง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้สหกรณ์สามารถวิเคราะห์ว่าหากทำตามกระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้จะสามารถลดต้นทุนเกษตรกรและสามารถป้องกันโรคใบร่วงได้ ถึงแม้ว่าเกิดโรคดังกล่าวแต่ก็ได้รับความเสียหายไม่มาก ต้นยางพารายังให้สามารถกรีดให้ผลผลิตได้ ทั้งนี้ หากสมาชิกสหกรณ์จะนำไปต่อยอด เพื่อฟื้นฟูแปลงยางพารา ให้คำนึงถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายและเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับแปลงของตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของต้นยางพารามีความสมบูรณ์แข็งแรง ต้านโรคและยืดเวลาการเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น จะช่วยให้สมชิกลดรายจ่ายและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันสหกรณ์ได้นำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับน้ำยางและใช้ระบบจีพีเอส ตรวจจับแปลงปลูกว่ามีการปลูกรุกล้ำเขตป่าสงวนหรือไม่ จับแปลงยางสมาชิกทุกแปลงเพื่อตรวจสอบย้อนกลับ เมื่อสมาชิกมาขาย จะสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดรู้ได้ทันทีว่าน้ำยางพาราที่นำมาขายมาจากแปลงไหน ซึ่งสหกรณ์ชาวสวนบ้านโคกเคียน จำกัด เป็นแห่งแรกที่นำระบบตัวนี้มาใช้ในกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อเข้าสู่กระบวนการซื้อขายเพื่อก้าวไปสู่มาตรฐานสากล ในส่วนการใช้นวัตกรรมเครื่องวัดอุณหภูมิความชื้นในสวนยางที่เกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นของลูกหลานสมาชิกที่เก่งด้านไอทีแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในสวนยางพาราก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แก้ปัญหาโรคใบร่วงยางพาราได้สำเร็จ ปัจจุบันสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลานำไปต่อยอดงานวิจัยเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“โคกเคียนโมเดล” เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ซึ่งในขณะนั้นเกิดปัญหาโรคใบร่วงยางพาราระบาดอย่างรุนแรง สหกรณ์ได้ใช้กระบวนการสหกรณ์ระดมร่วมคิดว่าเราจะแก้ปัญหาโรคนี้อย่างไร จึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้วประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องด้านยางพาราเพื่อมาร่วมทำกิจกรรมตรงนี้ เป็นการระเบิดจากข้างในสู่ข้างนอกตามหลักทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแนวทางไว้ให้ 

สหกรณ์ชาวสวนบ้านโคกเคียน จํากัด ตั้งอยู่ ม.8 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ปัจจุบันมีสมาชิก 129 ราย มีพื้นที่ 367.5 ไร่ เป็นการต่อยอดมาจากวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรชาวสวนตำบลโคกเคียน สมาชิกส่วนใหญ่ทำสวนยางเป็นหลักและสวนปาล์ม ซึ่งมีกิจกรรมรวบรวมและเพื่อขายน้ำยางพารา เพื่อแก้ปัญหาของเกษตรกรผู้มีอาชีพทำสวนยางพาราในพื้นที่ ร่วมกันแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตยางพาราตกต่ำและการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรสมาชิกสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมและสูงกว่าการจำหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งได้รับเงินปันผล และเฉลี่ยคืนเมื่อสิ้นปี ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจภายในชุมชนมีการหมุนเวียน เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...