จากอาชีพทำนาที่ได้ชื่อว่า กระดูกสันหลังของชาติ วันนี้ต้องพลิกแพลงจากอาชีพดั้งเดิมที่ทำมาตั้งแต่สมัยพ่อ แม่ เพื่อความอยู่รอด ตัดสินใจปรับเปลี่ยนผืนนาข้างบ้านมาปลูกบัวฉัตรขายสร้างรายได้เดือนละกว่าสองหมื่นบาท
วาจา คงคา เกษตรกรหญิงแห่งบ้านปากพลี จ.ปราจีนบุรี ปรับเปลี่ยนผืนนาข้างบ้าน 4 ไร่ มาปลูกบัวฉัตร ขายหลังราคาข้าวเกิดความผันผวนราคาไม่คงที่ ไหนจะต้องเสียค่าปุ๋ย ค่าเกี่ยว ทั้งยังต้องถูกตัดเรื่องความชื้นจนทำให้การทำนาแต่ละปีไม่มีเงินเหลือ การตัดสินใจมาปลูกบัวฉัตรขายจึงทำให้วันนี้มีรายได้จากการขายดอกบัวเฉลี่ยวันละร่วม1000 บาท หรือ เดือนละ 20.000บาท ที่สำคัญ มีรายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัวทุกวัน
วาจา หรือ เจ๊ จา พาไปดูบัวฉัตรที่ปลูกไว้ในนาข้างบ้านที่พร้อมเก็บดอกขาย เป็นบัวฉัตรสีขาว และสีชมพู ดอกใหญ่ออกเต็มพื้นที่ เจ๊จา บอกว่า ทำนาบัวไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ปรับพื้นที่พร้อมหว่านปุ๋ยคอกนำหัวหรือเหง้าบัวลงดิน แล้วปล่อยน้ำเข้าให้ลึกประมาณ 60-70 ซ.ม.อีกราว 1 เดือนก็สามารถเก็บดอกขายได้ เจ๊จา บอกด้วยว่า บัวฉัตรจะมีอายุแค่ 3 เดือน ซึ่งตอนนั้นจะต้องตัดรากทิ้งเหลือเหง้าโดยเว้นเป็นร่องไว้ บัวก็จะขึ้นมาใหม่ รออีก เดือนก็จะออกดอกให้ตัดเหมือนเดิม การปลูกบัวเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ลงทุนครั้งเดียวเก็บดอกขายได้ตลอดชีวิต เพียงแค่ใส่ปุ๋ยคอกให้หากเห็นว่าดอกน้อยลง
เจ๊จา ยังบอกว่าราคาขายเป็นกำเพื่อบูชาพระกำละ 15ถึง 20 บาท สีชมพูจะค่อนข้างสวยกว่า แต่ทั้งนี้ก็มีความนิยมและขายได้พอๆกัน แต่บัวที่บานแล้วไม่สามารถใช้บูชาพระได้ก็จะมีคนมารับซื้อ กก.ละ 10 บาท มีอท่าไหร่ซื้อหมด เจ๊จา ยังบอกด้วยว่าจุดเด่นของบัวฉัตร คือ ดอกใหญ่ทน ขณะนี้ เตรียมขยายพื้นที่ปลูกออกไปอีก 2 ไร่เพราะปริมาณที่จะขายยังไม่พอกับความต้องการของลูกค้า ใครที่สนใจอยากได้คำแนะนำการปลูกบัวฉัตร สามารถติดต่อกับเจ๊จา ได้ที่ 066 – 0304083
ธนปกรณ์ วิศวามิตร / ปราจีนบุรี
081-2863615