ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประกาศจะลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล เหลือลิตรละ 30 บาท จากปัจจุบันเพดานราคาขายปลีกไม่เกินลิตรละ 32 บาท ขณะนี้กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง โดยเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 2 บาท จากปัจจุบันที่จัดเก็บภาษีลิตรละ 6 บาท เพื่อทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในท้องตลาดเหลือที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาทตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องมีการหารือกับกระทรวงพลังงานและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยว่า หากกรมมีการลดภาษีสรรพสามิตให้แล้ว จะมีการนำไปใช้ในส่วนใด เช่น จะนำเนื้อภาษีที่ลดลง ไปลดราคาขายปลีกน้ำมันให้กับประชาชนทั้งหมด หรือนำไปช่วยชดเชยภาระ ให้แก่กองทุนน้ำมันในบางส่วน
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้ประเมินว่าการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรทุก 1 บาท จะกระทบการจัดเก็บรายได้ภาษีของกรม เดือนละ 2,000 ล้านบาท แต่หากมีการลดภาษีจริงลิตรละ 2 บาทก็จะทำให้รายได้หายไปเดือนละ 4,000 ล้านบาท ถือเป็นระดับที่ดูแลได้ เนื่องจากน้อยกว่ารัฐบาลชุดก่อนที่มีการปรับลดภาษีดีเซลถึงลิตรละ 5 บาท ทำให้กรมสรรพสามิตขาดรายได้มากกว่า 100,000 ล้านบาท.