ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
"มูลนิธิสว่างจรรยาธรรม" จัดงานประเพณี “ทิ้งกระจาด” ประชาชนกว่าครึ่งหมื่น แห่รับของบริจาค
10 ก.ย. 2566

         มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์  ร่วมกับผู้ประกอบการ ห้างร้าน และผู้มีจิตศรัทธา จัดงานประเพณีทิ้งกระจาด ปีที่ 62  แจกทานผู้ยากไร้บรรเทาทุกข์ พร้อมอุทิศส่วนกุศลบรรพบุรุษล่วงลับ – ศพไร้ญาติ เด็กคนชรา ผู้พิการ  ผู้ยากไร้แห่รับของบริจาคกว่าครึ่งหมื่นคนเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 ก.ย.66 มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ร่วมกับผู้ประกอบการ ห้างร้าน และผู้ที่มีจิตศรัทธา จัดงานประเพณีทิ้งกระจาด หรือ แจกทานช่วยเหลือผู้ยากไร้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้มีรายได้น้อย โดยมี ดร.เสกข์สรร ธีระวาณิชย์ ประธานมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ร่วมกันมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของ ให้กับผู้ยากไร้ ที่มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ถ.สมรรถการ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

          โดยในปีนี้ได้มีเด็ก คนชรา และผู้ยากไร้จากอำเภอต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดข้างเคียง มาเข้าคิวรอรับบริจาคสิ่งของ ข้าวสารอาหารแห้งมากกว่า 5,000 คน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ข้าวของราคาแพง   สำหรับข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของที่นำมาแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ในครั้งนี้ ได้รับบริจาคจากพ่อค้าประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาทั้งใน และต่างจังหวัด  นอกจากนั้น สิ่งของข้าวสารอาหารแห้ง ส่วนหนึ่งที่เหลือจากการแจกทาน ทางมูลนิธิฯ ก็จะได้นำไปมอบให้กับโรงเรียนที่ยากไร้ ขาดแคลน ในถิ่นทุรกันดารตามแนวชายแดน และราษฎรที่ประสบปัญหาภัยพิบัติทั้งน้ำท่วม ภัยแล้งในพื้นที่


           ดร.เสกข์สรร ธีระวาณิชย์ ประธานมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ กล่าวว่า งานประเพณีทิ้งกระจาด ของมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ได้เริ่มจัดทำมาตั้งแต่ปี 2504 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 62 ปีแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่เด็ก คนชรา และผู้ยากไร้ ที่ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค ทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับศพไร้ญาติ และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว  โดยจะมีการจัดอย่างต่อเนื่องทุกปี

(จุดาพร จันทรมาศ/บุรีรัมย์/0872564788)

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...