นายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่ได้นำเสนอปัญหาการดูแลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและนำเสนอผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ครั้งที่ 3/2566 ในฐานะเป็นผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดกระบี่
“จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว จึงอยากสร้างความอบอุ่นใจให้นักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และ ศรชล.มีพระราชบัญญัติรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอยู่แล้ว จึงอยากใช้กลไกนี้ในการดูแลอำนวยความสะดวก รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล โดยให้ ศรชล.เป็นหน่วยหลักบูรณาการร่วมกับหน่วยข้างเคียงต่าง ๆ”
ปัจจุบันกระบี่มีผู้ประสบภัยทางทะเลไม่บ่อยนัก และสามารถให้ความช่วยเหลือได้โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งพี่น้องชาวประมง ซึ่งทุกฝ่ายพยายามจะกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว คาดหมายว่าปีนี้ปลายปีช่วงไฮซีซั่นนักท่องเที่ยวน่าจะหลั่งไหลเข้ามามาก ประกอบกับทาง ครม.เพิ่งเห็นชอบในเรื่องของฟรีวีซ่า จะทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนหลั่งไหลเข้ามาจังหวัดกระบี่มากขึ้น
ตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 3.5 ล้านคน จากปัจจุบันเข้ามากกว่า 2 ล้านคน จึงอยากสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวเรื่องความปลอดภัย เพราะสถิตินักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้ามาจังหวัดกระบี่ เป็นสัญชาติมาเลเซียเข้ามาจำนวนสูงสุด และส่วนใหญ่นิยมชมชอบเข้ามาพักอาศัยท่องเที่ยวแบบ Long Stayส่วนทางยุโรป สแกนดิเนเวีย สวีเดน ยูเค และอเมริกา ก็ต่างเข้ามาอยู่ที่กระบี่จำนวนมาก ในระยะเวลา 3-6 เดือน
นายภาสกรกล่าวว่า ในส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์ดีมีแนวโน้มที่สูงขึ้น เป็นการท่องเที่ยวแบบก้าวกระโดด สายการบินได้รับประโยชน์มาก แต่ในระยะนี้เป็นช่วงฤดูมรสุม ตัวเลขของนักท่องเที่ยวอาจจะลดลงบ้าง
ทางจังหวัดจึงพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจโดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ จัดเป็นช่วง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหกรรมอาหารปลอดภัย มิวสิก Festival ที่อ่าวนาง หรือการจัดโรดโชว์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากภาคเหนือเข้ามาสู่จังหวัดกระบี่ พยายามจัดกิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวกระบี่ได้ทุกเดือน
“สำหรับการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ หลังจากโควิด-19 มีรายได้กว่า 20,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดและค่อนข้างสูง ซึ่งคาดการณ์ว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ” นายภาสกรกล่าว