พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร.ลงพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง สำนักศิลปากรที่ 11 สำนักงาน ปปง.และภาคส่วนเกี่ยวข้อง แถลงปิดคดี บุกรุกโบราณสถานเมืองสงขลาเก่า หลังในวันนี้ได้ทำการ สนธิกำลังจากหลายหน่วย ร่วมทำการตรวจค้นเป้าหมายของเครือข่ายผู้ต้องรวม 12 จุด โดยได้ใช้กฎหมาย ปปง.ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ยึดทรัพย์เป็นที่ดิน 5 แปลงซึ่งมีราคาประเมินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แต่มีราคาซื้อขายจริงไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นเป้าหมาย 12 จุดในวันนี้เป็นของเครือข่ายบุกรุกโบราณสถาน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นบ้านของผู้ต้องหา 5 คน รวม 8 จุด ในทางการสืบสวนพบว่า มีการนำดินจากโบราณสถานเขาน้อย ไปทำการปรับถมที่ดินบริเวณหาดจันทร์สว่าง ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร ซึ่งต้องชมเชยคณะทำงานทั้งหมด ที่ใช้วิธีการตรวจหน้าดิน เอาดินในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์กับดินบริเวณหาดจันทร์สว่าง จนยืนยันชัดเจนว่า เป็นดินที่มาจากโบราณสถานเขาน้อย ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ที่ใช้เวลาทำกันมานานกว่า 1 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งยืนยันชัดเจนว่า กลุ่มผู้ต้องหากระทำความผิดจริง ทำกันอย่างแยบยลและทำกันมานานแล้ว เป็นการเอาเปรียบคนสงขลามานาน
“ดังนั้น หากถูกดำเนินคดีอาญาอย่างเดียว อีกไม่นานออกมาก็กระทำความผิดได้อีก จึงต้องดำเนินการในมาตรการทางภาษี ตาม พรบ.ฟอกเงิน ยึดทรัพย์ แม้จะออกมาแล้วก็ไม่สามารถกลับไปกระทำผิดได้อีก เพราะไม่มีทรัพย์สินเหลือแล้ว โดยจากการสืบทรัพย์นั้น พบว่า ที่ดินทั้ง 5 แปลงนั้นได้มีการโอนไปให้บุคคลใกล้ชิดครอบครองแทน ซึ่งเป็นแม่บ้านบ้าง คนใกล้ชิดบ้าง จึงต้องใช้ความผิดฐานฟอกเงิน หรือ เป็นกฎหมายในความผิด 7 ชั่วโคตร และหากคนสงขลา พบว่ามีเจ้าพ่อ เจ้าแม่อีก ก็ขอให้แจ้งมาที่ตนเองได้เลย จะดำเนินการให้หมด และหลังจากนี้ก็คงต้องยินดีกับชาวสงขลา ที่จะได้เดินหน้าขับเคลื่อน เป็นเมืองมรดกโลกต่อไป”
ในขณะที่นายบรรจง นะแส ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้าร่วมในคดีนี้ ก็ยอมรับในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีความจริงจัง ในการดำเนินคดี และมีหลักฐาน พยานที่แน่นหนา เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดผู้ที่ก่อเหตุบุกรุกโบราณสถานได้อย่างแน่นอน แต่ภาคประชาชนยังคงมีความกังวล กับการบูรณะฟื้นฟู โดยเฉพาะ บริเวณฐานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1,400 ปี ที่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งงบประมาณในการบูรณะ ที่สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้ทำแผนเสนอจังหวัดสงขลาไป 12 ล้านบาท หากได้งบประมาณก็คงจะเป็นปี 2568 ซึ่งเสี่ยงมากที่เจดีย์เขาน้อยจะทรุดตัวพังลงมา โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง โดยฤดูกาลที่ผ่านมาก็มีดินสไลด์ตัวแล้วไม่น้อย
สำหรับคดีบุกรุกโบราณสถาน เมืองสงขลาเก่าในอำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลาสำนักศิลปากรที่ 11 จังหวัดสงขลาได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.สิงหนคร เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่บุกรุกขุดหน้าดินและขุดดินในเขตโบราณสถานเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเมื่อประเมินความเสียหาย ประมาณ 4 ไร่ มีมูลค่าความเสียหายทางโบราณคดี กว่า 42 ล้านบาท และยังมีผลกระทบกับเจดีย์เขาน้อยที่เป็นโบราณสถานสำคัญอายุกว่า 1400 ปีตามคดีอาญาที่ 154/65 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2565 สามารถจับกุมผู้ต้องหาและดำเนินคดีจำนวน 5 รายประกอบด้วยนางณัฐณรันต์ จันทร์สว่างหรือเจ๊อ้อย นายชาญชญา จันทร์สว่าง หรือ โกแป็ก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร นายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร นายสนธิเทพ เต็มอริและนายวุฒิชัย คล้ายเพชร พร้อมตรวจยึดรถแบคโฮร์ยี่ห้อ โคมัตสึ สีเหลือง 1 คัน แจ้งข้อหา 7 ข้อหาร้ายแรง เป็นความผิดตาม พรบ.โบราณสถาน พรบ.ป่าไม้ พรบ.เหมืองแร่ ลักทรัพย์ เป็นต้น