นายพลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพที่มุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบชีวภาพ หรือชีวมวล ได้แก่ พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและอุตสาหกรรมด้วยการยกระดับตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
ตั้งแต่การนำความรู้ระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพและต้นทุนด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่ประเทศไทย มีอยู่มากมาขับเคลื่อน เน้นการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบต่าง ๆ และการนำวัสดุเหลือทิ้งเดิมมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงทางอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม และเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจาก “ทำมากแต่ได้น้อย” ไปสู่ “ทำน้อยแต่ได้มาก” อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยดีพร้อม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ จึงได้ดำเนินการการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมชีวภาพ ภายใต้นโยบายดีพร้อมโต ของนายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและสามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์
รวมถึงส่งเสริมยกระดับตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำให้เกิดการเสริมสร้างความเข้มแข็งและมีศักยภาพ เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งผลดีต่อประเทศ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่จะสามารถนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงขึ้น
นายพลาวุธ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและวิสาหกิจด้านปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์ม และเคมีชีวภาพ จำนวน 6 กิจการ เพื่อพัฒนา 4 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนประกอบจากปาล์มน้ำมันแปรรูป ได้แก่
1. ครีมทำความสะอาดเครื่องหนังอเนกประสงค์
2.แว็กซ์ขัดรองเท้า
3.โลชั่นบำรุงผิว
4.โลชั่นกันแดด
ในการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันสำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นรวบรวมข้อมูลด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในการพัฒนา การด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมการควบคุมคุณภาพมาตรฐานวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ การพัฒนาบุคลากรและเครื่องจักร ตลอดจนการสร้างโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบจำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ โดยแปรรูปปาล์มน้ำมันเพื่อแยกหรือสกัดเป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
1. แคโรทีนอยด์ในน้ำมันปาล์มแดง
2. ไขปาล์ม (Palm wax) ซึ่งสามารถใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ตลอดจนสามารถใช้สำหรับผสมสารสกัดหรือสมุนไพร เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
ทั้งนี้ จากการดำเนินการพัฒนา 4 ผลิตภัณฑ์ และ 2 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบดังกล่าว คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้แก่วิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการกว่า 15 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ดีพร้อมยังจัดการสัมมนาและ Workshop หลักสูตรระยะเวลา 2 วัน เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ได้จากการดำเนินโครงการ เสริมองค์ความรู้ให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง