นายชาญ ปัทมะวิภาค ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวง ซึ่งทำหน้าที่จำหน่ายไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีความห่วงใยต่อผู้ปฏิบัติงานใกล้กับสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงในระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ กฟน.สืบเนื่องจากมีสถิติอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับการทำงานใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงเกิดจากการที่ผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงอันตรายในการทำงานใกล้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทุพลภาพของผู้ปฏิบัติงานบ่อยครั้ง กฟน. จึงแนะนำให้ศึกษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากไฟฟ้าแรงสูงตลอดจนหลีกเลี่ยงการสัมผัสสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแรงต่ำในขณะฝนตกหรือเปียกชื้นเพราะฉนวนของสายไฟฟ้าบางจุดอาจถูกกิ่งไม้อุปกรณ์พาดสายรวมถึงสภาพแวดล้อมทำให้ชำรุดมีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช็อตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาดสายสื่อสารหรือติดตั้งอุปกรณ์ใดๆ บนเสาหรือสายไฟฟ้าของ กฟน. จะต้องได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้านครหลวงทุกครั้งก่อนปฏิบัติงานเนื่องจากอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับบริเวณกว้าง รวมถึงผู้ปฏิบัติงานต้องสวมหมวกใส่ถุงมือ สวมรองเท้าชุดแต่งกายตามมาตรฐาน ข้อกำหนดเรื่องอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) และปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง
ที่ผ่านมา กฟน. ได้มีการประชาสัมพันธ์ จัดฝึกอบรม สัมมนา อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการพาดสายสื่อสาร ผู้ทำงานใกล้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ผู้ประกอบการรถเครน ผู้ประกอบการป้ายโฆษณา และผู้รับเหมาที่ประกอบกิจการรับต่อเติมอาคารบ้านเรือนในเขตพื้นที่จำหน่ายของ กฟน. ให้ตระหนักถึงอันตรายจากกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรณีมีการก่อสร้างอาคาร, สิ่งปลูกสร้าง, ป้ายโฆษณา ใกล้กับสายไฟฟ้าแรงสูง ต้องรีบแจ้งให้ กฟน. ทราบเพื่อดำเนินการตรวจสอบติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันก่อนดำเนินงานก่อสร้างก่อนทุกครั้ง
หากประชาชนพบเห็นการลักลอบพาดสายสื่อสารหรืออุปกรณ์ใดๆ บนเสาไฟฟ้าของ กฟน. หรือพบเห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งได้ที่การไฟฟ้านครหลวงเขตได้ทุกเขต หรือที่ MEA Call Center โทร 1130 นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งผ่าน MEA Smart Life Application ของการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง