สมาคมสินแร่ฯเสนอ รมว.เกษตรคนใหม่ เร่งสานต่อทำคลอดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เผยความหวังพลิกโฉมการปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก.ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ทศวรรษ พร้อมสร้างผลงานกระตุ้นเศรษฐกิจให้เห็นผลทันตา
ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา นายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง กล่าวถึงการเริ่มต้นบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คนได้ประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนงานต่อข้าราชการหน่วยงานต่างๆในสังกัดกระทรวง พร้อมถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ค ไลฟ์ให้ประชาชนรับฟังไปพร้อมกันเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 นั้น ตนขอแสดงความชื่นชมร้อยเอกธรรมนัส ที่จะบริหารงานแนวใหม่ ทำงานเชิงรุกแบบบูรณาการกับหน่วยงานอื่น โดยถือเอาประโยชน์สุขของเกษตรกรเป็นเป้าหมายสำคัญ
นายกสมาคมสินแร่ฯ กล่าวว่า เป็นที่คาดหวังได้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรหลายล้านคนจะได้รับการดูแลที่ดีขึ้นหากกระทรวงเกษตรฯดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามนโยบายที่ประกาศ พร้อมกันนี้อยากฝากให้ร้อยเอกธรรมนัสเร่งผลักดันงานดีๆที่ทำค้างไว้ในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ นั่นคือร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้่นที่เกษตรกรรม พ.ศ…..ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก)ได้ทำการยกร่างโดยผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ตามขั้นตอน เพียงแต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังไม่ได้นำเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
“บัดนี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เริ่มบริหารงานแล้ว สมาคมสินแร่ฯจึงขอเสนอให้ ร้อยเอกธรรมนัสซึ่งรับทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการฯมาก่อนและกำกับดูแล ส.ป.ก.ได้พิจารณานำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อให้รัฐสภาพิจารณาตามกระบวนการต่อไป”ดร.วิจักษ์กล่าว
ร่าง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม พ.ศ…. เป็นการยกเครื่องพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ที่ใช้มายาวนานเป็นเวลา 48 ปี ซึ่งล้าสมัยไม่ทันต่อสภาพสังคมและเศรษฐกิจของโลกปัจจุบัน โดยร่างกฎหมายใหม่กำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินให้สอดคล้องกับสภาพที่ดิน พื้นที่ เศรษฐกิจและสังคม เพื่อบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ดินให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด แต่ยังคงหลักการสำคัญในการใช้พื้นที่ประกอบเกษตรกรรม ทั้งนี้ที่ดินที่ไม่เอื้อต่อการทำเกษตรกรรม แต่มีคุณค่าในการทำกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง หรือสนับสนุนก็ให้ดำเนินการได้ เช่น พลังงาน กังหันลม โลจิสติกส์ เหมืองแร่ คมนาคม การศึกษา การท่องเที่ยว เป็นต้น
“สมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างยินดีสนับสนุนรัฐบาลนายเศรษฐาและรัฐมนตรีธรรมนัสที่ประกาศนโยบายจะกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสในการสร้างรายได้จากพื้นที่ดินและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน อาทิ การยกเลิกและปรับปรุงกฎหมายที่ไม่จำเป็น ส่วนการเร่งผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมจะส่งผลให้นโยบายกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจสามารถบรรลุผลได้โดยไว” ดร.วิจักษ์กล่าวทิ้งท้าย