นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวจัดงาน OTOP Midyear 2023 “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน มีนายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน, ดร.วันดี กุญชรยาคงจุลเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านพัฒนาชุมชน, นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางสาวศรินดา จามรมาน และนายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาผ้าไทย, รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน หน่วยงานภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชน ร่วมงานแถลงข่าว ณ ลาน Q Stadium ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมโดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพมีงานทำและสร้างรายได้ โดยการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้ชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่แหล่งเงินทุน รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการ และการตลาดเพื่อเชื่อมโยงสินค้า จากชุมชนสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมุ่งหวังให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้า ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย “มุ่งเน้นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่น (OTOP) ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการประสานกับภาคเอกชน เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มตลาดมากขึ้น การสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ซึ่งจะนำสู่การส่งออกสินค้าเชิงวัฒนธรรม และนำหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ให้ผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่นเป็นหน่วยธุรกิจในการสร้างงานสร้างรายได้ตามแนวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Economy)
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถขยายตลาดและสร้างการรับรู้ให้กับงานศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาของคนไทยให้สามารถแพร่หลายและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทย และต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมากรมการพัฒนาชุมชนได้มีการนำนวัตกรรมด้านต่างๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา อาทิ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงาม, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีอายุยาวนานขึ้น มีความทันสมัย เหมาะแก่การใช้งานมากยิ่งขึ้น เป็นต้น และที่สำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจะสามารถเป็นการเพิ่มรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังคงเป็นการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโต ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้าเพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพ นำไปสู่การขายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับประเทศ ส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในอนาคต คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้ไม่น้อยกว่า 1,200 ครัวเรือน โดยจะสามารถสร้างรายได้ให้เกิดเงินหมุนเวียนใน ระบบเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ส่งผลให้คนในชุมชนได้ มีกิน มีใช้ สร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งของประเทศต่อไป OTOP ทำให้เกิดโอกาสกับคนต่างจังหวัด แต่ปัจจุบัน OTOP ไปได้ไกล และนับเป็นพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาที่ทรงแบบลายผ้าและพระราชทานให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ได้นำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ จึงขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวชมงานท่านจะได้บุญได้กุศลในการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ OTOP นายชาดากล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน OTOP Midyear ปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นไป เป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศจะได้นำเอาผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่ผ่านฝึกฝนจากพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาในการที่พระองค์ได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ และส่งคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกไปทำหน้าที่พัฒนาหัตถกรรมไทยทุกประเภท ทำให้พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ได้มีมุมมองในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จนเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามอย่างที่เมื่อท่าน มท. 1 ประหลาดใจว่าดูสวย ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาไปให้ความรู้ ให้กำลังใจแก่พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ให้มีกำลังใจต่อสู้กับโควิด และมีกำลังใจที่จะฝ่าทางตันที่เด็กวัยรุ่นมองดูว่าล้าสมัย จนกระทั่งกลายเป็นสินค้าที่มีความสวยงามมีความเป็นสากลมากขึ้น ตัวผลิตภัณฑ์เองสามารถเป็นตัวจูงใจให้คนซื้อได้ด้วยตัวเอง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงพยายามปลูกฝังว่าเราทำงานหาเลี้ยงชีพต้องนึกถึงโลกนึกถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน เรื่องสีธรรมชาติเรื่องผลิตภัณฑ์เศษเล็กเศษน้อยอย่างกระเป๋าที่ผลิตจากกาบกล้วยเป็น zero waste อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP เครื่องหนังก็เอาเศษหนังมาทำผลิตภัณฑ์ ซึ่งการจัดงาน OTOP Midyear ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ OTOP ใน 3 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ผลสำเร็จของพี่น้องประชาชนที่เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาที่ส่งคนไป coaching ทั้งเรื่องรูปแบบ กระบวนการผลิต วัสดุที่ใช้ผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รู้จักพึ่งพาตัวเองเช่น รวมกลุ่มปลูกฝ้ายปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไม่ต้องพึ่งพาโรงงานเครื่องจักรเครื่องกลเป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน เรื่องที่ 2 มาให้กำลังใจพี่น้อง OTOP ที่เขาไม่ยอมจำนนกับองค์ความรู้ดั้งเดิมช่วยกันผ่าทางตันเปิดใจสามารถรับเอาสิ่งใหม่ในเรื่องของการออกแบบตัดเย็บ เรื่องที่ 3 งาน OTOP midyear ครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ผลจากการพัฒนาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ประโยชน์ของงาน OTOP นอกจากมีโอกาสช่วยกลุ่ม OTOP ที่ต้องใช้เวลาการพัฒนาเขาก็เปิดพื้นที่ให้ซึ่งเป็นประโยชน์กับพี่น้อง OTOP จังหวัด ทั้ง 77 จังหวัดรวมทั้งกรุงเทพฯ และผู้ประกอบการจากโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์เทคนิคต่างๆในการค้าขาย เช่น การขายออนไลน์ นี่คือประโยชน์ของการมารวมกลุ่มกัน ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้ผู้ค้าปลีกค้าส่งก็จะมาหาคู่พันธมิตรเพื่อรับออเดอร์ไปขาย ขอขอบคุณรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณมาให้เพื่อจัดงาน OTOP midyear เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประโยชน์ต่อรายครอบครัว และขอให้พี่น้องสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนให้ทราบโดยทั่วกัน นายสุทธิพงษ์กล่าว
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน "OTOP Midyear 2023" ในครั้งนี้จัดขึ้น ภายใต้ธีมงาน "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" เป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีความล้ำค่าจากฝีมือคนไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทยอย่างชัดเจนรวมถึงมีการสร้างบรรยากาศภายในงานจากเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาที่แสดงความเป็นท้องถิ่นไทยในแต่ละภูมิภาค ผสมผสานกับสีสันส่งท้ายปีที่สร้างความคึกคัก เต็มไปด้วยความสนุกสนานของกิจกรรม และของรางวัลมากมาย ภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย 1. โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 2. โซน OTOP Trader จังหวัด และ OTOP Trader ประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 3. โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3-5 ดาว ที่ผ่านการคัดสรรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ประจำปี พ.ศ. 2565 กว่า 1,200 บูธ 4. โซนโอทอปชวนชิม มากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ อาทิ ไก่ย่างเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น , ผัดหมี่โคราช จังหวัดนครราชสีมา ข้าวเปิ๊บ จังหวัดสุโขทัย, ข้าวซอย จังหวัดเชียงใหม่, โรตีสายไหม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ข้าวแช่ และขนมหวาน จังหวัดเพชรบุรี, ข้าวยำน้ำบูดู จังหวัดปัตตานี, หอยนางรมสด จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ข้าวมันไก่เบตง จังหวัดยะลา เป็นต้น
และไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 40 รายที่อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น, โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จากบ้านแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และบ้านหัวคลาด อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี, โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก และ First Lady ที่จัดแสดงผ้าที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด แต่มีดีไซน์ที่ทันสมัยเหมาะกับทุกรุ่น ทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับโซนพิเศษภายในงาน คือ โซน Health & SPA ที่ได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานให้ทุกท่าน ได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์สปาไทย มีทั้งการนวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อผ่อนคลาย และการนวดเพื่อความงาม ซึ่งภายในโซนยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรคุณภาพดีให้ทุกท่านได้เลือกช้อป นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดังมาร่วมสร้างความบันเทิง ได้แก่ แช่ม แช่มรัมย์ ,นนทิยา จิวบางป่า ,รัชนก ศรีไลพันธ์ ,ลำยอง หนองหินห่าว, ไรอัล ไมค์หมดหนี้, ตรี ชัยณรงค์, เต๋า ภูศิลป์, หญิง ธิติกานต์ และป็อป ปองกูล รวมถึงการจับสลากรางวัลชิงโชคไม่น้อยกว่า 20 รางวัล และในวันสุดท้ายของการจัดงานร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ทองคำ มูลค่ากว่า 200,000 บาท
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในงาน OTOP Midyear 2023 พร้อมพบกับความหลากหลายของสินค้าที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยมาให้ ชม ชิม ช้อป กันอย่างจุใจ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้พี่น้องผู้ผลิต ผู้ประกอบการ กันนะครับ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว