ไทยจับมือ สปป.ลาว ดันปัญหายาเสพติดเป็นวาระระดับภูมิภาค กำหนด 12 ข้อ แก้ปัญหา พร้อมเตรียมติดตามจับกุมผู้ต้องหาค้ายา รายสำคัญ กว่า 50 ราย ของไทย ใช้ สปป.ลาว กบดาน
วานนี้ 25 ก.ย.66 ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธารา กอล์ฟ แอนด์สปา รีสอร์ต จ.กระบี่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รอง รมต.ป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ แห่ง สปป.ลาว พ.อ.อินปง จันทะวงสา เลขาธิการ สนง.คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตรา และควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว พร้อมคณะ ประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 19 ระดับรัฐมนตรี หารือเรื่องมาตรการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การทำลายแหล่งผลิตยาเสพติด และการสร้างเตาเผายาเสพติดร่วมกัน โดยยกเป็นวาระของภูมิภาคระดับนานาชาติ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวหลังการประชุมว่า จากการประชุมหารือร่วมกัน จะเห็นว่าทั้งไทยและลาว มีปัญหาที่ตรงกัน เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของยาเสพติด ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อทั้ง 2 ประเทศ จากข้อมูลที่หารือกันพบปัญหาหลายเรื่องที่ตรงกัน เช่น ผู้ที่ถูกดำเนินคดีอาญาที่อยู่ในเรือนจำของทั้ง 2 ประเทศ อย่างของลาว นักโทษ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นคดียาเสพติด ส่วนของไทยประมาณร้อยละ 85-90 ก็เป็นคดียาเสพติดเช่นกัน จะเห็นได้ว่าปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ของทั้ง 2 ประเทศมาจากปัญหายาเสพติดเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติเหมือนกัน เราจึงเห็นพ้องกันว่าปัญหายาเสพติด นอกจากจะเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ควรยกระดับเป็นวาระในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพราะทุกประเทศทั่วโลก ต่างพบกับปัญหายาเสพติดเหมือนกัน
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า การจะแก้ปัญหาในประเทศตัวเองจึงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องยกระดับร่วมมือกันระหว่างประเทศในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีข้อมูลตรงกันว่า ยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่ตอนนี้ เราพบว่าไม่มีการผลิตในประเทศ แต่มาจากแหล่งผลิตในต่างประเทศ เป็นข้อมูลเดียวกันกับ สปป.ลาว จึงตกลงเป็นทวิภาคีร่วมกัน ในเรื่องการป้องกัน การปราบปราม และบังคับใช้กฎหมาย และยังมีความเห็นตรงกันว่า ผู้เสพยาเสพติด หรือผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาจจะมีบางส่วนเป็นผู้หลงผิด จึงต้องให้ความสำคัญกับการบำบัดฟื้นฟู หลังการประชุมร่วมกันครั้งนี้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดหัวข้อการแก้ปัญหาที่ตกลงไว้ร่วมกัน 12 ประเด็นหลัก การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่มีการทำสัญญาร่วมกัน เพราะปัญหายาเสพติดเป็นความทุกข์ของคนทั้ง 2 ประเทศ
ด้านพล.ต.คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รอง รมต.ป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ แห่ง สปป.ลาว กล่าวด้วยว่า ทาง สปป.ลาว พร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ซึ่งผู้ต้องหาที่ต้องโทษของ สปป.ลาว 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักโทษคดียาเสพติด
ขณะที่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ จาก ปปส.ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหารายสำคัญของไทย หนีไปกบดานใน สปป.ลาว จำนวน 54 คน ซึ่งทาง ปปส.จะร่วมกับ สปป. ลาว ในการติดตามจับกุมัวมาดำเนินคดีต่อไป
กระบี่/0936161469