พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมหารือกับนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็น ความร่วมมือระหว่างการขับเคลื่อนการบำบัดฟื้นฟู ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อยกระดับการทำงานยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มุ่งลดผลกระทบจากปัญหายาเสพติด โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส. นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางธารินี แสงสว่าง รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นางสาวจุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายภูมิพงษ์ ขุนฉนมฉ่ำ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี ในการประชุม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงประเด็นที่หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม เสนอขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ การขอให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาช่วยดูแลจำเลยและผู้ถูกคุมความประพฤติที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดให้มีการเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญในการให้โอกาสผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษา และเกิดความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำให้มีการร่วมดำเนินงานระหว่างสองกระทรวงในการจัดการปัญหาผู้เสพที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด (SMI-V) ที่กระจายอยู่ในชุมชนเข้าสู่การบำบัดรักษาและดูแลทางการแพทย์ โดยจะเป็นการบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อลดผลกระทบต่อสังคมชุมชน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด ภายใต้คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ทั้งนี้ในส่วนของการจัดการผู้เสพก็ตรงกันกับกระทรวงยุติธรรม โดยสาธารณสุขมีผู้เสพที่ต้องดูแลประมาณ ๑.๙ ล้านคน โดยจะเน้นการจัดการผู้เสพที่ใช้ต่อเนื่อง (Dependence) และกลุ่มใช้บ่อย (Abuse) ๔๕๙,๐๐๐ คน เข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลและสถานฟื้นฟูฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของผู้เสพที่คงเหลือ ๑.๔๖ ล้านคน เป็นผู้ใช้น้อย (Use) จะเน้นให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน CBTx ร่วมกับการดูแลของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของกฎกระทรวงการกำหนดปริมาณยาเสพติดฯ ตนจะเร่งรัดการจัดทำและดำเนินการให้เสร็จสิ้นและมีผลบังคับใช้ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งในตอนนี้คงต้องหารือกันให้ชัดเจนและมีข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ในการกำหนดปริมาณที่สามารถมีไว้ในครอบครองว่าเท่าใด ซึ่งจะรีบประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว โดยในการพบกันครั้งนี้ ทั้งสองกระทรวงมีความยินดีที่จะร่วมกันทำงานในการแก้ไขปัญหาผู้เสพ และผู้มีอาการทางจิตไม่ให้ก่อให้เกิดปัญหาต่อชุมชนและสังคม ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และตรงตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เน้นหลักคิด “ ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาฟื้นฟู และให้โอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ต่อไป