นายทรงพร ยองใย ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินและสนับสนุนการฟื้นตัวของเกษตรกรหลังภาวะวิกฤตโควิด-19 และเศรษฐกิจชะลอตัว คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกัน ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท มีเกษตรกรเข้าหลักเกณฑ์กว่า 2.69 ล้านราย ในส่วนพื้นที่การดำเนินงานของฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก คลอบคลุม 8 จังหวัด ประกอบด้วย สำนักงาน ธ.ก.ส. เพชรบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี กาญจนบุรี สมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม มีเกษตรกรเข้าเกณฑ์จำนวนกว่า 136,000 ราย มีเงินต้นคงเป็นหนี้ ประมาณ 12,600 ล้านบาท
สำหรับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. BAAC Mobile อำนวยความสะดวก ลดความคับคั่งที่สาขา นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ได้ร่วมกับเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ต่อยอดพัฒนาพัฒนภัณฑ์ทางการเกษตร เพิ่มศักยภาพและฟื้นฟูลูกหนี้เข้าร่วมกิจกรรม “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และเติมสินเชื้อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ส่งเสริมและฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้มีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่างการพักชำระหนี้ด้วย และเน้นย้ำระวังมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้ นำเรื่องพักชำระหนี้ไปหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปติดต่ออำนวยความสะดวก หรือหลอกลวงให้กดลิงก์ต่างๆ แบบอัตโนมัติ จึงขอให้ลูกค้าศึกษาข้อมูลการดาวน์โหลดและการใช้งานแอฟพลิเคชัน BAAC Mobile หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือ สาขาทั่วประเทศ