นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้กู้ยืมที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน นักศึกษากองทุน เปิดเผยว่า “กองทุนได้จัดทำโครงการส่งเสริมสนับสนุนผู้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและยกย่องประกาศเกียรติคุณให้แก่ศิษย์เก่าผู้กู้ยืมที่มีคุณสมบัติความประพฤติดี มีความเสียสละ ทำประโยชน์ให้แก่สังคม มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อชุมชนหรือสาธารณชน รวมถึงมีประวัติการชำระเงินคืนกองทุนตามกำหนดเวลาอย่างต่อเนื่อง
โดยกองทุนได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลทุนการศึกษาให้แก่ ผู้กู้ยืมที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน นักศึกษากองทุน จำนวน 12 ท่าน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน เพื่อประเทศชาติและทำความดีตอบแทนสังคม ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียน นักศึกษารุ่นน้องและสังคม นอกจากนั้น กองทุนยังได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาที่ได้สรรหาศิษย์เก่าที่ได้รับคัดเลือกเป็นแบบอย่างที่ดีดังกล่าวอีกด้วย เนื่องจากกองทุนเห็นว่าความสำเร็จ ของผู้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้ง 12 ท่าน เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดวิชาความรู้ และอบรมสั่งสอนของสถานศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาได้เติบโตขื้นเป็นบุคลากรที่เป็นคนเก่งคนดีมีคุณภาพของสังคม จึงสมควรได้รับการชื่นชมยกย่องเป็นเกียรติประวัติแก่สถานศึกษาต่อไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมที่ได้รับโอกาสทางการศึกษาจากกองทุนจำนวนกว่า 5 ล้านราย มีผู้กู้ยืมที่สำเร็จการศึกษาแล้วกว่า 4 ล้านราย คิดเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการกระจายโอกาสทางการศึกษาสร้างทุนมนุษย์เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ จำนวนกว่า 5 แสนล้านบาท ปัจจุบันพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยนักเรียน นักศึกษาจะมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษามากขึ้น โดยเพิ่มลักษณะการให้กู้ยืมเป็น 4 ลักษณะ ได้แก่ ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้ที่เรียนในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักของประเทศ ผู้ที่เรียนในสาขาวิชาขาดแคลนหรือรัฐมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ และผู้ที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ โดยกองทุนอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์คุณสมบัติในแต่ละลักษณะ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายผลิตกำลังคนเพื่อพัฒนาประเทศ รวมถึงส่งเสริมวินัยและความรับผิดชอบในการชำระเงินคืนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้รุ่นน้องต่อไป” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในที่สุด