***ตำรวจทางหลวงแพร่ ไล่ล่าแกงค์ค้ารถข้ามชาติจ้างรถขนส่งเตรียมส่งชายแดนแต่สุดท้ายไปไม่รอด พบรถที่ขโมยมาติดจีพีเอส เจ้าของเข้าแจ้งความพร้อมส่งพิกัด สกัดไว้ได้ทันก่อนส่งประเทศเพื่อนบ้าน 

***สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 23.30 น.  ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก ชุดเฉเาะกิจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถกองบัญชาการสอบสวนกลาง ให้สกัดจับรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากเขตพื้นที่ สน.สายไหม เป็นจักรยานรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้  สีแดง-เทา  หมายเลขทะเบียน 4ขช 1025 กทม. ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 14.51 น. โดยได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ที่ ตลาดวงศกร (ข้างแม็คโครถนนสายไหม) แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และกลับบ้านไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. พบว่า จักรยานยนต์ที่ได้ติด GPS พบว่ามีการเคลื่อนที่ออกจากจุดจอดรถไป พบว่าอยู่ พื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้แจ้งจึงเชื่อว่ารถจักรยานยนต์ของผู้แจ้งถูกโจรกรรมไป จึงแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อช่วยติดตามรถจักรยานยนต์และสืบสวนหาตัวคนร้าย และแจ้งประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสกัดจับรถคันดังกล่าว โดย พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สารวัตรทางหลวงแพร่ ได้สั่งการให้รถวิทยุตำรวจทางหลวง ออกตรวจสอบตามเส้นทางหลวงหมายเลข 103 สายร้องกวาง - อำเภองาว  พบรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒอ-7823 กทม.  จอดอยู่บนถนนไหล่ทางหลวง 103 บริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.ทุ่งน้าว อ.สอง จ.แพร่ จึงเชิญผู้ขับขี่และรถยนต์คันดังกล่าว ไปตรวจสอบยังด่านตรวจนางฟ้าอ.สอง จว.แพร่

โดยประสาน พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สอง จ.แพร่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจร่วมตรวจสอบสิ่งของภายในตู้ทึบด้านหลัง พบรถจักรยานยนต์บรรทุกอยู่ข้างในจำนวน 8 คัน ตรวจสอบเอกสารคู่มือทะเบียนรถ และการครอบครองรถดังกล่าว พบรถจำนวน 7 คันมีสำเนาถ่ายเอกสารแสดง กรรมสิทธิเป็นของบุคคลอื่น และอีก 1 คัน แสดงสำเนาหลักฐานเป็นของบุคคลอื่น แต่ใช้ป้ายทะเบียนรถของคันอื่นติดไว้แทน  ซึ่งชุดจับกุมได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์จำนวนดังกล่าวไว้ตรวจสอบหาผู้ครอบครองกรรมสิทธิที่แท้จริง และพบว่ารถจักรยานรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้  สีแดง-เทา  หมายเลขทะเบียน 4ขช 1025 กทม. เป็นรถคันที่ตรงตามที่ได้แจ้งหายไว้ที่ สน.สายไหมจริง โดยมีนายเฉลิมชัย (ขอสงวนนามสกุล) (ทราบชื่อภายหลัง) เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี เล่มที่ 0037/2566 เลขที่ 0057 ของ สน.สายไหม ให้ผู้ขับขี่ทราบ และแจ้งว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา และได้ทำการบันทึกจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ***สอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากชายไทยไม่ทราบชื่อ ทางเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 062-556-0997 ทางกลุ่มไลน์รับจ้างขนของ โดยนัดหมายให้ไปรับรถจักรยานยนต์ดังกล่าวที่บริเวณลานดินเขตแบริ่ง-เขตบางนา  โดยว่าจ้างให้นำรถจักรยานยนต์จำนวนดังกล่าวขนส่งไปยังจังหวัดเชียงราย โดยคิดค่าจ้างจำนวน 8,000 บาท (ให้ไปรับเงินที่ปลายทาง) มีชายไทยสองคนขับรถยนต์ตู้ทึบจำนวน 2 คัน นำรถจักรยานยนต์จำนวนดังกล่าวมาส่งมอบให้เพื่อนำไปส่งยังจุดที่หมายจังหวัดเชียงรายตามที่ได้ตกลงกันไว้ จนกระทั่งมาถึงเขตพื้นที่ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเรียกตรวจสอบ จึงทราบว่ารถที่บรรทุกมาเป็นรถที่ถูกขโมยมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้บันทึกการจับกุมและควบคุมตัวพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม กทม.โดย แจ้งข้อหา  “ลักทรัพย์หรือรับของโจร.