พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกานติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ฝ่ายความมั่นคงยังคงติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าหลบหนีอยู่ที่ใด ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบถามไปยังประเทศต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการตอบกลับมา ทั้งนี้ จะยังคงติดตามตัวต่อไป เพื่อให้ทราบว่าใครเป็นผู้พาตัวหลบหนีด้วย ส่วนกรณีที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายนนี้ ก็ทราบข่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา ดังนั้น มวลชนก็น่าจะเดินทางมาไม่มากนัก แต่จะป้องกันเรื่องการก่อเหตุความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มาฟังคำพิพากษา ขั้นตอนต่อไปก็จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงก็ยังไม่สามารถแถลงความชัดเจนเรื่องการติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ โดยต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกล้อง CCTV พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า การเดินทางไปประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศอังกฤษ ไม่ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะตนเดินทางไปวันที่ 11 ถึง 14 กันยายน แต่นายทักษิณเดินทางมาที่ประเทศอังกฤษในวันที่ 15 กันยายน ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากัน เป็นการเดินทางสวนกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกัน
ส่วนข้อเป็นห่วงเรื่องการเลือกตั้งตามโรดแมปนั้น พลเอกประวิตรกล่าวว่า ต้องรอให้กฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ และการจัดการเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 150 วัน ส่วนการปลดล๊อคพรรคการเมืองนั้น จะสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้หลังจากกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จ
พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่กองทัพบกหยุดใช้งานเรือเหาะว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกองทัพบก ซึ่งมีคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งานอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้ อนาคต จะพิจารณาการจัดซื้ออย่างรอบคอบหรือไม่นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตอนแรกก็ดูว่าดี แต่เมื่อมีคนขึ้นไปบนเรือเหาะแล้วน้ำหนักมาก จึงทำให้เรือเหาะรับน้ำหนักไม่ไหว ส่วนจะต้องมีการรับผิดชอบกับงบประมาณที่สูญเสียไปหรือไม่นั้นพลเอกประวิตร กล่าวว่า จะรับผิดชอบได้อย่างไร เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมยินดีให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ตรวจสอบ เพราะไม่ได้นำไปใช้ในทางเสียหาย ที่ผ่านมาตั้งใจทำงานเพื่แให้ทหารปลอดภัย เพราะการสูญเสียกำลังพลนั้น ไม่คุ้มค่ากัน
ขณะที่กรณีพระมหาอภิชาติ พระที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นด้านศาสนา และใช้ช่องทางออนไลน์ สร้างความขัดแย้งทางศาสนานั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า พระมหาอภิชาติลาสิกขาด้วยความสมัครใจ และไม่ได้นำตัวเข้าค่ายทหารแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของตำรวจ
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรของนายกรัฐมนตรีเป็นการสร้างภาพนั้น พลเอกประวิตรกล่าวว่า เป็นการติดตามงานของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องน้ำและการเกษตรในแต่ละจังหวัด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างภาพทางการเมือง เพราะไม่ได้จะเล่นการเมือง