ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
ผู้ประกอบการคลังสินค้ารับฝากเก็บข้าวสารยื่นหนังสือร้องทุกข์ รมว.กระทรวงพาณิชย์
08 ต.ค. 2566

       เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย ศูนย์ประสานงานบางปะกง ได้นำผู้ประกอบการคลังสินค้ารับฝากเก็บข้าวสารประกอบด้วย คลังสินค้า คลังสุทธิวัฒน์ สกลนคร /คลังปัญจพล ชัยนาท / คลังเทียมศักดิ์ นครพนม / คลังโชคไพสิฐ ราชบุรี / คลังวรโชติ อ่างทอง / คลังพรเจริญทวีโชค อุบลราชธานี / คลังพิมายการเกษตร นครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้องค์การสินค้าถอนอุทธรณ์และมีคำสั่งคืนหนังสือสัญญาให้ผู้ประกอบการ ฯ ที่ชนะคดีในชั้นศาลปกครองชั้นต้นแล้ว โดยมีนายกองตรีพิสิษฏ์​ พิพัฒน์​วิไลกุล ที่ปรึกษารมว.กระทรวงพาณิชย์ ออกมารับหนังสือในครั้งนี้แทน ที่กระทรวงพาณิชย์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

     นายศรรัก กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการคลังสินค้ารับฝากเก็บข้าวสารที่ชนะคดีในศาลปกครองชั้นต้นแล้ว แต่องค์การคลังสินค้าผิดสัญญาเรื่องไม่จ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาและไม่คืนหนังสือค้ำประกันสัญญานับตั้งแต่รัฐบาล “คสช” ถึงรัฐบาล “ประยุทธ์” นั้น ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมดได้เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์ประสานงานภาคประชาชน ที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อให้ศูนย์ของเราช่วยประสานเรื่องดังกล่าว ต่อท่าน รมว.กระทรวงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้

     ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมาจนบัดนี้เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว ผู้ประกอบการได้มีการพิสูจน์ในศาลปกครองและศาลมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการชนะคดีชั้นต้น แต่องค์การคลังสินค้าก็ยังไม่เห็นใจในความเดือดร้อนแสนสาหัสต่อผู้ประกอบการ ฯ ทั้งที่เงินประกันสินค้าก็เป็นเงินจากหยาดเหงื่อของผู้ประกอบการที่หามาทั้งชีวิต เพื่อนำมาค้ำประกันทำธุรกิจ อย่างตรงไปตรงมา 

     เมื่อผู้ประกอบการ ฯ ถูกกล่าวหา ผู้ประกอบการ ฯ ก็ไม่สามารถใช้สิทธิหนังสือประกันนั้นได้ เปรียบเสมือนถูกอายัดแต่ภาระที่ได้รับกลายเป็นแบกค่าธรรมเนียมไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 ต่อปีของยอดเงินทั้งหมด ที่ต้องแบกภาระจนกระดูกสันหลังของผู้ประกอบการกลายเป็นคนป่วยทุพพลภาพ หย่อนกำลังความสามารถ ที่จะประกอบการทำงานตามปกติได้ ไม่มีกำลังใจเพราะขบวนการที่ไม่ชอบธรรมด้วยวิธีพิเศษที่มีวลีบอกชัดว่า “อีกไม่นานเราจะทำตามสัญญา สัญญา“ จนเศรษฐกิจของประเทศชาติ และประชาชนพังเสียหายย่อยยับล้มระเนระนาดผลพวงจากรัฐบาล “คสช และ รัฐบาลประยุทธ์” 

     วันนี้ กลุ่มผู้ประกอบการอยากถามกลับไปยังองค์การคลังสินค้า ท่านไม่เห็นใจประชาชนผู้ประกอบการ ฯ อย่างพวกเราบ้างหรือ ถึงได้มีการอุทธรณ์คดีต่อไปเหมือนจงใจที่จะกดประชาชนผู้ประกอบการฯ ให้จมดินเลยใช่ไหม ทั้งๆที่ผู้ประกอบการได้แสดงความบริสุทธิ์ใจในศาลปกครองดังที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการ ฯ ชนะคดีแล้วทำไมองค์การคลังสินค้าถึงได้ใจดำอำมหิต กับประชาชนผู้ประกอบการ ฯ เช่นนี้ พวกเราประชาชนผู้ประกอบการ ฯ ขอเรียกร้องให้องค์การคลังสินค้า มีหัวใจ ที่มีคุณธรรม ถอนอุทธรณ์คดีด่วนที่สุด เพื่อรักษาโอกาสให้ประชาชนผู้ประกอบการ ฯ ได้มีแรงและลมหายใจต่อสู้ต่อไป

     ขณะนี้ต้องการเข้าสู่โหมดปรองดองกับคนในชาติให้กลับมารักมา สามัคคีกันแล้วเหตุไฉนทำไมหน่วยงานรัฐที่มีชื่อว่า “องค์การคลังสินค้า” ถึงยังไม่เริ่มทำเป็นแบบอย่างให้สังคมได้แลเห็นก่อนที่พวกเราประชาชนผู้ประกอบการ ฯ จะมาร้องเรียกหาสิทธิของพวกเราในวันนี้เพราะพวกเราก็ได้ชนะคดีในศาลชั้นต้นแล้ว ทั้งๆที่เราไม่ผิดพวกเรายอมเจ็บปวดยอมทน ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมาเกือบสิบปี พวกเรายอมกลืนเลือดยอมเจ็บปวด พวกเราจะไม่ฟ้องกลับต่อองค์กรรัฐใด พวกเราเพียงแค่มาร้องขอคืนความเป็นธรรมในส่วนที่เป็นสิทธิของพวกเรา คืนให้กับประชาชนผู้ประกอบการ ฯ และจะได้เริ่มทำมาหากินได้ต่อไป

 

     ดังนั้น วันนี้พวกเราประชาชนผู้ประกอบการ ฯ จึงมาขอความอนุเคราะห์ ฯพณฯท่านภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในนามรัฐมนตรีของประชาชน ตัวแทนพรรคเพื่อไทยพรรค ที่ประชาชนรักและและประชาชนเลือกมา พวกเราประชาชนผู้ประกอบการ ฯ เชื่อมั่นมีความหวัง ในการบริหารประเทศมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทยที่ผ่านมาและทำให้ประชาชนประเทศชาติได้ประโยชน์จากการบริหารประเทศมาจนถึงพรรคเพื่อไทยในวันนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศกินอิ่มนอนหลับลูกหลานมีความสุขอย่างปลอดภัยรวมถึงพวกเราประชาชนผู้ประกอบการขอฝาก ความหวังรัฐบาลของประชาชนพรรคเพื่อไทยช่วยคลี่คลายปัญหาให้กับประชาชนผู้ประกอบการที่ชนะคดีในศาลปกครองด้วยความเคารพ พิจารณาคืนหนังสือค้ำประกันฯให้แก่ประชาชนผู้ประกอบการฯอย่างด่วนที่สุด มิฉะนั้นผู้ประกอบการต้องแบกภาระค่าธรรมเนียมร้อยละ 2 ต่อปีอีก 

     นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง ตัวแทนศูนย์ร้องทุกข์ภาคประชาชน จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ศาลปกครองวินิจฉัยให้ผู้ประกอบการชนะคดี อคส. หลังจากที่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาออกมาแล้ว อคส. ได้เป็นอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีความเดือดร้อนในเรื่องของหนังสือค้ำประกัน ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องนำเงินสดไปวางไว้กับธนาคารและเสียดอกเบี้ยด้วย ดังนั้นการที่ศาลปกครองได้มีคำวินิจฉัยออกมาว่าผู้ประกอบการชนะ อคส. แต่ทาง อคส. นำหลักฐานอะไรไปอุทธรณ์ในครั้งนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าศาลปกครองได้เรียกเก็บหลักฐานจนเสร็จสิ้นแล้ว คำวินิจฉัยเขียนชัดเจนว่าผู้ประกอบการโรงสีทุกรายทำถูกต้องตามกฎระเบียบ ดังนั้นการที่ศาลให้คำวินิจฉัยออกมาแล้ว อคส. ยังไปอุทธรณ์ต่อทำให้กลุ่มโรงสีมีความเดือดร้อนและที่สำคัญพวกเขาไม่ได้เป็นผู้สร้างความเดือดร้อน ปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐมาโดยตลอด จริงอยู่ที่ในโครงการรับจำนำข้าวอาจมีผู้ที่กระทำความผิดแต่การใช้คำสั่งคสช.เหมารวมทั้งหมดเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง วันนี้ผู้ประกอบการโรงสีต่อสู้ สู้มาสิบกว่าปี แล้วได้มีความชอบทำของศาลปกครองออกมาแล้ว วันนี้ทั้งหมดมีจุดประสงค์เดียวกันคือให้ อคส. ถอนอุทธรณ์จึงเดินทางมาที่กระทรวงพาณิชย์ มาพบท่านรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อจะให้ดำเนินการให้ อคส. ถอนอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด

     ด้าน นายกองตรีพิสิษฏ์​ พิพัฒน์​วิไลกุล ที่ปรึกษารมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบเป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องทุกข์จากผู้ประกอบการ และจะนำเรื่องส่งมอบให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดำเนินก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...