ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วยปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายกเทศมนตรีตำบลลิ่นถิ่น รองนายกเทศมนตรีตำบลลิ่นถิ่น เลขานุการเทศบาลตำบลลิ่นถิ่น กำนันตำบลลิ่นถิ่น ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ อสม. ตำบลลิ่นถิ่น และ สมาชิก อส.อำเภอทองผาภูมิ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย (น้ำป่าไหลหลาก) เข้าร่วมท่วมบ้านเรือนและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย โดยได้รับการสนับสนุนถุงยังชีพจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 89 ราย
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลลิ่นถิ่นเกิดขึ้นจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 5 - 6 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ตำบลลิ่นถิ่น จำนวน 5 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 89 ครัวเรือน ขณะนี้ฝนหยุดตกแล้วในบางพื้นที่ ปริมาณน้ำค่อยๆ ลดลงสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ทั้งนี้ นายชาคริต ตันพรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ได้แจ้งให้เกษตรตำบล กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม พร้อมประสานกับเทศบาลตำบลลิ่นถิ่นในการเฝ้าระวัง และแก้ไขสถานการณ์น้ำ บริเวณสองข้างทางหลวงหมายเลข 323 หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสัญจรในบริเวณดังกล่าว และเปิดช่องทางระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังต่อไป
ขณะที่ ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งถึงนายอำเภอทั้ง13อำเภอเพื่อให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นย้ำให้ทุกอำเภอดำเนินการดังนี้
1. เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยติดตาม วิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ สภานการณ์น้ำ และประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ที่อาจส่งผลให้เกิดสาธารณภัยในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในชุมชน และหมู่บ้าน ผ่านทางหอกระจายข่าว ไลน์กลุ่มตำบลหมู่บ้าน และชุมชน อย่างต่อเนื่องทุกวัน
2. จัดเวรเจ้าหน้าที่เป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
3. ตรวจสอบความมั่นคงของผนังกั้นน้ำ สะพาน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้มีความมั่นคงปลอดภัย เส้นทางคมนาคมที่อาจจะได้รับผลกระทบโดยจัดให้มีการติดตั้งป้ายเตือน อุปกรณ์ และสัญญาณไฟ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
4. เมือ่เกิดสถานการณ์ ให้เร่งดำเนินการสำรวจและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว
5. ให้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ หน่วยงานทหารในพื้นที่ อาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา เพื่อสำรวจ ซ่อมแซม ฟท้นฟูความเสียหายด้านต่างๆให้กลับคืนสู่สภาพสภาวะปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ฝนตกหนักช่วงวันที่ 5-6 ตุลาคมที่ผ่านมาในพื้นที่ตำบลลิ่นถิ่น ส่งผลให้มีสะพานเหล็กข้ามลำห้วยลิ่นถิ่นโดนกระแสน้ำป่าพัดชำรุดเสียหายลอยไปกับสายน้ำ 1แห่ง ถนนโดยน้ำป่าพัดชำรุด 3 แห่ง ส่วนในพื้นที่ตำบลสหกรณ์นิคมน้ำป่าทำให้ฝายบ้านดินโส ซึ่งเป็นฝายที่กรมชลประทานก่อสร้างไว้สำหรับเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร อายุกว่า30ปีได้รับความเสียหายความกว้างกว่า 3 เมตร ทั้งนี้อำเภอทองผาภูมิจะเร่งสำรวจเพื่อทำรายงานส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเร่งทำการช่วยเหลือ ซ่อมแซมให้กลับมาใช้การได้โดยเร็วที่สุด
////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน