ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 12 ต.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พศวีร์ เรืองภู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.องพงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆนุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)
สั่งการให้ พ.ต.ต.ประหยัด ราษี สวป.สภ.สังขละบุรี ร.ต.อ.สิงห์ นารี รอง สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.134 ร่วมกันออกลาดตระเวนเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุดชนิด ตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
จนกระทั่งเวลา 21.30 น.ขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึง 3 แยกทางเข้าวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ หมายเลขทะเบียน บษ 741 กาญจนบุรี และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กธ 9880 กรุงเทพฯ วิ่งตามกัน มาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าไปทางวัดวังก์วิเวการาม
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่สังเกตพบรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน 9 กธ 9880 กรุงเทพฯ ที่ขับตามหลังมามีลักษณะบรรทุกของหนักและบริเวณกระบะท้ายมีผ้าใบปิดคลุมเอาไว้ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่องไฟสว่างเพื่อส่งสัญญาณให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าคนขับรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน 741 กาญจนบุรี เป็นชายที่ขับนำหน้าได้จอดรถขวางเจ้าหน้าที่เอาไว้ จากนั้นรถยนต์กระบะที่ขับตามหลังมาได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทางบ้านห้วยมาลัยอย่างรวดเร็ว ส่วนรถยนต์คันที่ขวางเจ้าหน้าที่เอาไว้ได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็วและสามารถหลบหนีไปได้
แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ นำโดย พ.ต.ต.ประหยัด ราษี สวป.สภ.สังขละบุรี ได้ขับรถยนต์ติดตามคันที่หลบหนีไปทางด้านบ้านห้วยมาลัย จนกระทั่งพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดทิ้งเอาไว้บริเวณริมทางใกล้กับห้วยลึก หมู่ 2 ต.หนองลู ซึ่งคนขับที่ชำนาญเส้นทางได้อาศัยความมืดหลบหนีไป โดยทิ้งแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเอาไว้ในรถ
จากการตรวจสอบพบแรงงานชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถบางส่วนนอนหลบซ่อนตัวอยู่ที่กระบะท้ายโดยมีผ้าใบปิดบังเอาไว้ นับรวมกันได้ จำนวน 17 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 1 คน หลังจากคุมตัวเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าคนขับรถยนต์กระบะทั้ง 2 คันนั้นเป็นใคร ซึ่งเจ้าหนร้าที่จะได้รวบรวมพยานและหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป
ทั้งนี้จากการสอบปากคำแรงงานทั้ง 17 คนผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาเป็นไทย ทราบว่า แรงงานทั้งหมดได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยผ่านนายหน้าซึ่งเป็นชาวเมียนมาด้วยกัน และกำลังมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน