นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อออนไลน์ ให้ข้อมูล เรื่องค่าใช้จ่ายในการไปทำงานที่อิสราเอล ของกรมการจัดหางาน เก็บค่ารถไปสนามบินสุวรรณภูมิคนละ 2,500 บาท นั้น กรมการจัดหางานขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยการเดินทางไปทำงานประเทศอิสราเอล ภายใต้โครงการ "ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (TIC) มีการเก็บค่าใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น ประมาณ 71,020 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) ดังนี้
1.ค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง เท่าที่จ่ายจริง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม 100 บาท ค่าธรรมเนียมการขอรับหนังสือเดินทาง 1,500 บาท ค่าตรวจสุขภาพ 3,250 บาท ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวจากประเทศไทยไปยังอิสราเอล ประมาณ 25,000 บาท ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 400 บาท
2.ค่าใช้จ่ายหลังจากเดินทางไปถึงรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ "ความร่วมมือไทย - อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน" ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจัดหางานที่ต้องจ่ายให้แก่บริษัทจัดหางานในรัฐอิสราเอลและค่าธรรมเนียมของโครงการความร่วมมือไทย - อิสราเอล รวมประมาณ จำนวน 3,549 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น ตามข้อกฎหมายแห่งรัฐอิสราเอล ซึ่งต้องจ่ายเมื่อเดินทางไปถึงรัฐอิสราเอล
ทั้งนี้กรมการจัดหางานได้อำนวยความสะดวกให้กับแรงงานไทยที่เดินทางผ่านโครงการ TIC ในการเดินทางจากกระทรวงแรงงาน ถ.มิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพมหานคร ไปส่งยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ โดยประสานรถบัสเที่ยวละ 5,300 บาท กำหนดผู้โดยสารพร้อมสัมภาระ ไม่เกิน 30 คน หากแรงงานต้องการใช้บริการจะมีค่ารถรายละ ประมาณ 200 บาท และชำระค่าใช้จ่ายให้กับรถบัสโดยตรง ซึ่งไม่มีการบังคับหากแรงงานท่านใดประสงค์เดินทางด้วยตนเองก็ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้
“ แรงงานที่ไปทำงานอิสราเอลส่วนใหญ่ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประกอบกับการไปทำงานตามโครงการ TIC มีสัญญาจ้างสูงสุด 5 ปี 3 เดือน เวลาเดินทางจะมีสัมภาระเยอะมาก ต้องใช้บริการแท็กซี่ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง กรมการจัดหางานจึงอำนวยความสะดวกด้วยการเหมารถบัสเพื่อช่วยให้แรงงานไทยประหยัดค่าโดยสาร ซึ่งราคาจะเป็นการเฉลี่ยต่อหัวต่อเที่ยวขึ้นอยู่กับว่าเที่ยวนั้นๆนั้นมีแรงงานโดยสารรถบัสกี่ราย โดยส่วนใหญ่จะเฉลี่ยที่ 200 บาทต่อคน” รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว