วันที่ 22 ตุลาคม 2566 นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน รับแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลกลับถึงประเทศไทย โดยมีเรือเอกสาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และเจ้หน้าที่กรมการจัดหางาน ร่วมอำนวยความสะดวกพร้อมชี้แจงสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6
นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด พร้อมกำชับว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการมอบขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องแรงงานไทยซึ่งจะต้องดูแลสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ โดยในวันนี้จะมีการรับแรงงานไทยจำนวน 139 คน เป็นชาย 137 คน และหญิง 2 คน ที่โดยสารกลับมาโดยเครื่องบินกองทัพอากาศ แอร์บัส RTAF 229 ซึ่งแรงงานไทยกลุ่มนี้ได้แจ้งความประสงค์ไว้กับสถานทูตฯ และเดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ประเทศไทย ในช่วงเวลา 13.40 น. ของวันนี้ กรมการจัดหางาน จึงจัดเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะให้คำแนะนำเรื่องการรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้แรงงานไทยที่กำลังลำบากสามารถรับเงินสิทธิประโยชน์โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าตั้งแต่ไปปฏิบัติหน้าที่วันที่ 15 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน (วันที่ 22 ตุลาคม 2566) สามารถพาคนไทยและแรงงานไทย เดินทางกลับประเทศไทยได้แล้ว เป็นจำนวน 3,274 คน โดยมีผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับประเทศไทย จำนวน 8,478 คน และแจ้งไม่ประสงค์กลับประเทศไทย จำนวน 123 คน
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า แรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และอยู่ในความคุ้มครอง มั่นใจได้เลยว่าเบื้องต้นมีสิทธิ์รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท อย่างแน่นอน หรือกรณีที่มีการรับรองจากแพทย์ว่าทุพพลภาพ จะได้รับการสงเคราะห์ เป็นจำนวน 30,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ จะสงเคราะห์จำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาทด้วย นอกจากนี้ประเทศอิสราเอลยังมีสวัสดิการตามกฎหมาย (ประกันการทำงาน + นายจ้างจ่าย) กรณีบาดเจ็บ/พิการตามการรับรองของแพทย์ แบ่งเป็น บาดเจ็บ 10 - 19% ได้รับเงินก้อนเดียว ประมาณ 1,440,000 บาท บาดเจ็บเกิน 20% ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าจะเสียชีวิต โดยประเมินจากความสูญเสีย กรณีเสียชีวิต ภรรยาและบุตร ได้รับเงินเดือนทุกเดือน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ และบุตรอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ (ภรรยาได้รับเงิน ประมาณ 50,000 บาท ต่อเดือน /บุตร ได้รับเงิน ประมาณ 8,000 - 16,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) สำหรับแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ สามารถยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน
ขอย้ำเตือนแรงงานไทยและครอบครัวแรงงานที่กลับจากอิสราเอล หากมีผู้แอบอ้างจะช่วยเหลือ โดยติดต่อทาง Line, Facebook หรือ SMS โดยขอให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือกดลิงก์ซึ่งไม่ทราบที่มา ขออย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้ หากต้องการขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางาน
ไปทำงานในต่างประเทศ สามารถติดต่อได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน หรือที่สำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด กรณีประสานรับเงินค่าจ้างค้างจ่าย สิทธิประโยชน์ตามความคุ้มครองของประเทศอิสราเอล และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ติดต่อที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ชั้น 12 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน