ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ได้มี น.ส.ธนัญญา เกิดผล อายุ 29 ปี พร้อมกลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ม.4 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี กว่า 10 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิต ม.4 ต.หน้าไม้ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อณัฐวุฒิ พวงทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหลุมแก้ว เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ม.4 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยมีการแจ้งว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ผู้แจ้งและสมาชิกได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินและสมาชิกบางคนต้องการถอนเงิน แต่ได้รับแจ้งจากเหรัญญิก กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ว่าเงินในบัญชีไม่มี ทำให้ผู้แจ้งและสมาชิกไม่สามารถถอนเงินหรือกู้เงินได้ เป็นเหตุให้ผู้แจ้งและสมาชิกได้รับความเสียหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
ด้าน นายกิตตินันท์ ศรีเลิศสกุลชัย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.4 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก ตนละเพื่อนบ้านอีกจำนวนมากได้เป็นสมาชิก ของกลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ได้มีเงินฝาก เข้าไปตั้งแต่สมัยที่มีประธานกลุ่มคนเก่าๆและได้เสียชีวิตไปแล้วถึง 2 คน และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่ง เมื่อไม่นานมานี้ได้มีสมาชิกบางคน ไปทำการขอกู้เงินและบางคนก็ไปทำการขอถอน เงินเพื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกแต่ปรากฏว่าทาง น.ส. บุษบา เชี่ยวพิมลพร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเหรัญญิกของกลุ่มออมทรัพย์ ฯ ได้แจ้งกับสมาชิกว่าเงินไม่มีในบัญชี ทำให้บรรดากลุ่มสมาชิกซึ่งขณะนี้มีร่วม 100 คน เกิดความสงสัยและเคลือบแคลงใจ ว่าเงินจำนวนมากหลายล้านบาทหายไปไหน แค่เพียงตนและภรรยาก็ส่งยอดเงินไปกว่า 8 แสนบาทจึงได้พากันมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ทางด้าน ร.ต.อ. ณัฐวุฒิ พวงทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหลุมแก้ว เบื้องต้นได้รับแจ้งความไว้แล้ว และจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยจะมีการเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องและหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
และในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางสุรินทร์ กรุดไทย อายุ 75 ปี ประธานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดย พบว่านางสุรินทร์ ฯ เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรงพยาบาล โดยมีลูกๆให้ข้อมูลว่านางสุรินทร์นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินในบัญชีที่หายแต่อย่างใด ส่วนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกลุ่มออมทรัพย์นั้นเนื่องจากทุกคนที่เป็นสมาชิกเห็นว่าแม่ตนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่อายุอาวุโสในกลุ่ม และเพิ่งได้รับการ เลือกตั้งมาจากกลุ่มสมาชิก เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะนางบุษบา ฯ เหนัญญิก มาแจ้งกับสมาชิกกลุ่ม ว่าสมุดบัญชีเงินฝากหาย จะต้องมีการไปเปิดสมุดบัญชีใหม่และต้องมีประธานจึงได้มีการแต่งตั้งแม่ตน และในทางเดียวกันนี้ หลังนางสุรินทร์ ฯ ก็ได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เช่นกันว่ามาเป็นประธานโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินฝากของสมาชิกและเงินในบัญชี เนื่องจากนางบุษบา ฯ จะเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบเงินกองทุนแต่เพียงผู้เดียว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังเบอร์มือถือนางบุษบา ฯ แต่ก็ไม่มีผู้รับสายและเดินทางไปที่บ้านก็ไม่พบแต่อย่างใด
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / หน.ข่าวภูมิภาค