นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายในงานมอบรางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 ว่า การออม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออมเพื่อการเกษียณเป็นส่วนสำคัญในการขยายโอกาสและเสริมสร้าง ความเสมอภาคในสังคมเพื่อให้ประชาชนมีหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตหลังเกษียณจากการทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามผลักดันนโยบายส่งเสริมการออมเพื่อให้ประชาชนวัยแรงงานราม 39,000,000 คนเข้าสู่วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพมีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีด้วยระบบการออมเพื่อการเกษียณในรูปแบบการออมทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ
สำหรับแรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งยังไม่มีการออมภาคบังคับ มีการออมภาคสมัครใจที่รัฐจัดให้คือ ประกันสังคมมาตรา 40 และอีกกลไกลหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากคือกองทุนการออมแห่งชาติ ที่ปัจจุบันดูแลสมาชิกมากกว่า 2.5 ล้านคน ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาในการสร้างสรรค์กลไกสวัสดิการภาครัฐที่จัดให้แรงงานนอกระบบไม่มีสวัสดิการใดรองรับให้ได้มีโอกาสรับบำนาญในยามเกษียณเหมือนแรงงานในระบบจากเงินออมสะสมและเงินสมทบรวมถึงการดำเนินงานของ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อน แผนปฎิบัติด้านการพัฒนาอีกด้วย
นอกจากนี้ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การออมกับ กอช.ขั้นต่ำเพียง 50 บาทต่อครั้งสูงสุด 30,000 บาทต่อปีพร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุด ร้อยละ 100 หรือไม่เกิน 1800 บาทต่อปีการออมกับ กอช.เป็นการออมภาคสมัครใจผู้ที่เป็นสมาชิกสามารถออมเงินได้ตามบริบทของชีวิตคือออมได้เมื่อพร้อมสิทธิการเป็นสมาชิกยังคงอยู่เช่นเดิมซึ่งสะท้อนให้เห็นจำนวนสมาชิก กอช. ในปัจจุบัน