ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับกลุ่มเกษตรกรปลูกอ้อยในพื้นที่จังหวัดกาญจน์ จึงทราบว่าชาวไร่อ้อยทั่วประเทศเตรียมตัวประท้วงปิดหน้าโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ หลังรัฐบาลประกาศดึงน้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุม หัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 เผยทำแบบนี้เหมือนปิดโอกาสเกษตรกรชาวไร่อ้อยไม่ให้ลืมตาอ้าปากได้
ซึ่งหลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาประกาศว่า จะให้น้ำตาลทราย กลับมาเป็นสินค้าควบคุมอีกรอบ เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย ถือเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน ซึ่งขัดกับประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ที่ประกาศจะขึ้นราคาน้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 4 บาท ดังนั้น การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ประกาศให้น้ำตาลทรายกลับเข้ามาเป็นสินค้าควบคุม จึงเป็นการสั่งห้ามขึ้นราคาน้ำตาลทรายไปโดยปริยาย
ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ส่งผลผลิตเข้าโรงงานน้ำตาลในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เพราะหากมีการปรับราคาน้ำตาลทรายขึ้น ก็ย่อมส่งผลต่อราคาการรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาล ทำให้เกษตรกรได้ราคาขายอ้อยดี แต่เมื่อมีการสั่งระงับการขึ้นราคาก็ทำให้เกษตรกร หมดหวังที่จะขายอ้อยได้ราคาดีไปโดยปริยาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยชาวจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง เช่น
นางประเทิง เจิมสุวรรณ เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจากอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ตอนแรกที่ได้ข่าวว่าจะมีการขึ้นราคาน้ำตาลและจะทำให้ขายอ้อยได้ราคาดีกว่าเดิมก็รู้สึกดีใจ เพราะการปลูกอ้อยใช้ต้นทุนสูงขึ้นทุกปี ช่วงสองถึงสามปีหลัง ราคาน้ำตาลปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาขายอ้อยเข้าโรงงานก็ได้ราคาดี เกษตรกรจึงพอลืมตาอ้าปากได้ แต่เมื่อมีการประกาศให้น้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุมอีกรอบ ก็ทำให้ความหวังที่จะขายอ้อยได้ราคาดีหายไปด้วย
ส่วนนายแพร นันทสังข์ เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในอำเภอห้วยกระเจา กล่าวว่า ที่ผ่านมา เกษตรกรต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทุกปี เมื่อราคาน้ำตาลปรับขึ้น ราคาขายอ้อยเข้าโรงงานก็ดีขึ้น ทำให้เกษตรกรพอมีกำไร โดยส่วนตัว ตนอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลเรื่องต้นทุนการปลูกอ้อยที่นับวันมีแต่จะสูงขึ้น ทั้งเรื่องของค่าปุ๋ย ค่ายา ที่ปรับราคาขึ้นทุกวัน เกษตรกรต้องเป็นผู้รับภาระมาตลอด หากปีนี้ ราคาขายอ้อยไม่ได้ดี ก็คงจะมีเกษตรกรที่ต้องขาดทุนกันอีกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อย เขต 7 กล่าวว่า การที่รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ประกาศว่าจะให้น้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุมอีกรอบนั้น ถือเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด เพราะในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาล คสช. ได้เคยประกาศนำน้ำตาลออกมาจากสินค้าควบคุมและลอยตัวราคาน้ำตาลทรายให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก ซึ่งในการประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในปี 2561นั้น เป็นช่วงที่ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกปรับตัวลดลงพอดี จากที่รัฐบาลเคยสนับสนุนและกำหนดราคาน้ำตาลทรายไว้ที่กิโลกรัมละ 20 บาท ก็ปรับลดลงตามกลไกตลาดโลกเหลือเพียงกิโลกรัมละ 17 บาท เกษตรกรก็ต้องรับผลกระทบจากเหตุการณ์ตรงนี้ไปเต็มๆ กระทั่ง ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา ด้วยสภาวะภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตอ้อยมีปริมาณน้อยลง รวมถึงองค์ประกอบด้านต่างๆ ทำให้ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกมีการปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรชาวไร่อ้อยจึงสามารถขายอ้อยได้ราคาดี พอจะลืมตาอ้าปากได้ แต่เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มาประกาศว่าจะนำน้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุมอีกครั้ง ก็จะทำให้ราคาน้ำตาลทรายถูกควบคุม ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลกและย่อมส่งผลโดยตรงต่อราคาขายอ้อยของเกษตรกร แทนที่จะขายอ้อยได้ราคาดี ก็จะไม่ได้อย่างที่หวังเอาไว้ โดยคาดการณ์กันว่า ราคาขายอ้อยจะลดลงกว่าที่คาดไว้ประมาณตันละ 40 บาท ซึ่งถือเป็นการปิดโอกาสของเกษตรกรไม่ให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ไปโดยปริยาย
ดังนั้น ทางสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยได้มีการหารือกัน ถึงแนวทางปฏิบัติที่จะคัดค้านการประกาศนำน้ำตาลทรายกลับไปเป็นสินค้าควบคุม โดยการเตรียมที่จะรวมตัวประท้วงหน้าโรงงานน้ำตาลพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้รัฐบาลทบทวนการนำน้ำตาลทรายกลับไปเป็นสินค้าควบคุม โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการประท้วงพร้อมกันภายในช่วงสัปดาห์นี้
////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน