นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการทำงานของ กอ.รมน. พร้อมทั้ง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ร่วมคณะ โดยมี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน.ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า อยากให้ทางกองทัพมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ร่วมแก้ไขปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือความยากจน แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ดินการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมของประเทศ ต้องขอชื่นชมทางกองทัพที่ได้ดำเนินนโยบายการนำที่ดิน ภายใต้การดูแลของกองทัพ มาให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล (จ.อุดรธานี) มีพื้นที่รวม 9,276 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยกำหนดส่งมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคมสิ้นปีนี้ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าต่อพี่น้องประชาชนจากกองทัพไทย เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่กองทัพมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรทรัพยากร หวังอย่างยิ่งว่าจะขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ เรื่องนี้ได้บอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้วโดยส่วนตัวมีความชื่นชมต่อเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่พูดคุยกันมาหนเดียวและภายในเวลาเดือนกว่าๆ ก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน นายกฯกล่าว
“ยืนยันว่า การหารือกันวันนี้ ไม่มีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน.ผมได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ.ว่า ที่มาที่ไปเรื่องนี้คืออะไร วันนี้บริบทการทำงานของ กอ.รมน.เริ่มเปลี่ยนไป การคุยกันเป็นเรื่องการพัฒนาและการลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับประชาชนให้ลดน้อยลง เช่น โครงการมอบที่ดินให้กับประชาชนที่หนองวัวซอ จะขยายไปในพื้นที่อื่นด้วย พร้อมขอให้ดูด้วยว่า การมอบที่ดินไปแล้วหากไม่มีแหล่งน้ำต้องดูเรื่องระบบชลประทานด้วย เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีเรื่องของปัญหาภัยแล้งด้วย ยืนยันอะไรที่เกี่ยวข้องกับการยุบ กอ.รมน.ไม่ได้อยู่ในความคิดของรัฐบาลนี้ ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจและไม่ได้อยู่ในนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แม้แต่น้อย” นายเศรษฐากล่าว
ด้านพล.อ.เจริญชัยกล่าวอีกว่า โครงการนี้จะใช้เป็นแนวทางในการจัดสรรประโยชน์จากที่ดินของกระทรวงกลาโหมในเบื้องต้นอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ 1.กองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ที่แก่งปะลอม บ้านพุราด อ.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวน 2,300 ไร่เศษ 2.พื้นที่ของกองทัพเรือใน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จำนวน 300 ไร่เศษ 3.พื้นที่กองทัพอากาศ สนามบินนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม จำนวน 500 ไร่เศษ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอันเนื่องมาจากการขาดแคลนที่ดินทำกินเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกันนั้นจะเปลี่ยนสถานะของประชาชนในการครอบครองที่ดินโดยไม่รับอนุญาตมาเป็นผู้เช่าใช้ที่ดินอย่างถูกกฎหมายลดปัญหาการสร้างความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐได้ด้วย ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้พื้นที่ทั้งหลายในการครอบครองและไม่ได้ใช้ประโยชน์คืนให้กับพี่น้องประชาชนได้ในที่สุด