ประธานกมธ.อุตสาหกรรม สภาฯยกคณะใหญ่ถกผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตฯ ย้ำเป็นการทำงานคู่ขนาน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศมีความเข้มแข็ง ชื่นชม“พิมพ์ภัทรา” เดินหน้าตั้ง “กรมอุตสาหกรรมฮาลาล” ขยายตลาดอาหารฮาลาลไทยไปทั่วโลก
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้นำคณะกมธ. เข้าประชุมหารือกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอรับทราบข้อมูลแนวทาง และนโยบายการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
นายอัครเดช กล่าวว่า การมาครั้งนี้ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องทำงานคู่ขนานร่วมกับฝ่ายบริหารเพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด โดยต้องการทราบนโยบายและวิสัยทัศน์ของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งหารือ สอบถาม เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหา ที่เห็นว่า ยังเป็นอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ โดยหลังจากการที่ได้รับฟังข้อมูลแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง หลายประเด็นเป็นสิ่งใหม่ ที่เพิ่งได้รับทราบเป็นเรื่องที่น่าสนใจหากทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือ และเปลี่ยนข้อมูล จับมือกันทำงานคู่ขนานกันไปก็เชื่อว่า จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศมีความเข้มแข็ง
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกมธ. ได้ชื่นชมวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในการเสนอให้มีการจัดตั้ง “กรมอุตสาหกรรมฮาลาล” ที่ได้รับความเห็นชอบจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้เร่งดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการอาหารฮาลาลในประเทศไทย ในการขยายตลาดสู่อุตสาหกรรมฮาลาลในตลาดโลก ที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมาก
นายอัครเดช กล่าวว่า คณะกมธ. ยังได้สอบถามแนวทางการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับข้อกังวลสถานการณ์ด้านอุตสาหกรรมในหลายประเด็น อาทิ แนวทางการส่งเสริม หรือให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมเก่า สู่การพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ดั้งเดิม ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า, นโยบายการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ, การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเหมืองโปแตซ เช่น กรณีเหมืองแร่โปแตซ ที่ จ.นครราชสีมา รวมถึงความคืบหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น