รมช. ไชยา เป็นประธานกล่าวปฐกถาเปิดงานสัมมนาอนาคตเกษตรไทยในยุคดิจิทัล มุ่งพัฒนาฐานข้อมูลองค์กร รองรับเกษตรกรยุคใหม่
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานกล่าวเปิดและปาฐกถาพิเศษ ภายใต้งานสัมมนาอนาคตเกษตรไทยในยุคดิจิทัล ณ ห้องประชุมอาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ว่า วัตถุประสงค์ของงานสัมมนาในวันนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกษตรกรไทยในยุคดิจิทัล และเปิดมุมมองเกษตรกรไทยให้ใช้เทคโนโลยีทำการตลาดเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคให้เกิดการสร้างรายได้มากขึ้น เกษตรกรไทยในยุคดิจิทัลต้องปรับเปลี่ยนตามบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จากภัยธรรมชาติ เศรษฐกิจ สงครามระหว่างประเทศ รวมถึงสงครามการค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามสนับสนุนอาชีพเกษตรกรให้มีรายได้ที่มากขึ้น ภายใต้การใช้นโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ ต่อจากนี้ ภาคการเกษตรจะต้องวิเคราะห์ตลาดก่อนผลิตสินค้า เพื่อให้มีตลาดรองรับ ลดภาวะสินค้าล้นตลาด และเกษตรกรต้องใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพสำหรับจำหน่ายในตลาดต่อไป ถึงแม้ว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์การเกษตรจะมีเพียงร้อยละ 8 ของประเทศ แต่มีความสำคัญและเป็นต้นน้ำของภาคอุตสาหกรรมอื่น (ข้าว พืช สัตว์ ประมง) เช่นกัน หลังจากนั้น รัฐมนตรีช่วยฯ ไชยา ได้ให้สัมภาษณ์ขณะเดินชมนิทรรศการภายในงานเพิ่มเติมว่า " ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นองค์กรที่ให้ความรู้การเกษตรสมัยใหม่แก่เกษตรกร โดยจะพัฒนาฐานข้อมูลของกระทรวงเกษตรฯ บนแพลทฟอร์มดิจิทัลหรือแอพลิเคชั่นให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด รวมถึงวางแผนการผลิตสินค้าได้ นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นแก้ปัญหาสินค้าเกษตรเถื่อน เริ่มจากป้องกันการนำเข้าเพื่อไม่ให้กลไกตลาดเสียหาย และดูแลพี่น้องเกษตรกรไปพร้อมกัน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ การนำเข้าหัวอาหารสัตว์ (ข้าวโพดและถั่วเหลือง) ที่มีอัตราภาษีนำเข้าสูง จึงต้องบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ภาคการเกษตรขับเคลื่อนต่อไปได้ รวมถึงมอบหมายกรมปศุสัตว์เตรียมมาตราการรองรับการส่งออกปศุสัตว์ที่มีชีวิต (วัว และแพะ) ไปยังตลาดที่ความต้องการสูง เช่น จีน เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย เป็นต้น โดยเฉพาะการจัดทำวัคซีนที่มีคุณภาพสากล เพียงพอต่อการป้องกันโรคสัตว์ในประเทศ และสามารถส่งออกวัคซีนให้ประเทศเพื่อนบ้านได้อีกด้วย