งานบุญใหญ่ กฐินสามัคคี วัดบ่อทองรังสรรค์ ญาติโยมสูงวัยร่วมใจกันเผาข้าวหลาม 1000 กระบอกแจกญาติโยมที่มาร่วมงาน หลวงพ่อเจ้าอาวาสบอกเพื่อสืบสาน อนุรักษ์วิถีชาวบ้านเพื่อให้เด้กรุ่นใหม่ได้เดินต่อ ปีหน้าขอเพิ่มจำนวนให้มากกว่าเดิม
ที่วัดบ่อทองรังสรรค์ ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บรรดา สว.พ่อเฒ่า แม่เฒ่า พากันเข้าวัดเพื่อร่วมกันเผาข้าวหลามจำนน 1000 กระบอก หลังท่านพระครู วิบูลย์สังฆกิจ เจ้าอาวาสดำริว่า จะเผาข้าวหลามเพื่อแจกให้กับญาติโยมที่จะมาร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ในวันที่ 18 พ.ย. 2566 ซึ่งการเผาข้าวหลามจำนวนมากถึง 1000 กระบอกไม่ใช่จะทำกันง่ายๆเป็นงานใหญ่ต้องมีการเตรียมการ ทั้งการหาไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญให้ได้ครบตามจำนวน และต้องเป็นไผ่ที่เหมาะแก่การนำมาทำกระบอกข้าว รวมทั้งข้าวเหนียว มะพร้าว น้ำตาล ถั่วดำ หรือแม้กระทั่งฟืนที่จะเป็นเขื้อเพลิง จึงต้องมีการแบ่งกันทำงานเพื่อให้งานออกมาตามความประสงค์ สุดท้ายคนทีจะเผาก็ต้องรู้วิธีเผาไม่เช่นนั้นอาจได้ข้าวหลามดิบทานไม่ได้ ไฟต้องพอดีไม่แรงจนกระบอกข้าวหลามไม้ ไฟไม่อ่อนจนช้าวหลามดิบจะเสียของ เพราะฉนั้นคนที่จะมาควบคุมดูแลเป็นแม่งานต้องรู้จริงเก่งจริงมีประสบการณ์ยาวนาน งานนี้ไม่พ้นตารอน แก้วพันมา พ่อเฒ่าสูงวัย อายุ 80 ปี ที่มีประสบการเต็มเปี่ยมมาเป็นคนควบคุมการเผาข้าวหลาม
และที่เป็นกำลังใจให้กับบรดาพ่อเฒ่า แม่เฒ่าที่รับอาสากรอกข้าวหลามแล้ว วันนี้ นางวัชรภรณ์ แตงหมี นายอำเภอหญิง อำเภอกบินทร์บุรี พร้อมคณะ ได้เดินทาวมาให้กำลังใจงานบุญใหญ่และร่วมเผาข้าวหลามกับทางวัดด้วย
หลังใช้เวลาร่วมสองชั่วโมง ข้าวหามทั้ง 1000 กระบอกก็สุก เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ตารอน ได้นำข้าวหลามที่ราไฟออกมาปลอกให้ นยางวัชราภรณ์ แตงหมี นายอำเภอชิม ซึ่งทางนายอำเภอเองก็ยอมรับว่า อร่อย รสชาติหวานมันจริงทำเอาบรรดา สว.สูงวัยที่ทุ่มกำลังทำงานนี้จนสำเร็จถึงกับโล่ใจ
หลวงพ่อพระครูวิบูลย์ สังฆกิจ เจ้าอาวาสบอกถึงจุดประสงค์การเผาข้าวหลามว่านอกจากจะเพื่อแจกให้กับโยมที่มาร่วมงานบุญกฐินแล้วยังเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ถึงคุณค่าและวิธีการเผาข้าวหลามเพื่อจะได้ช่วยกันอนุรักษ์สืบต่อให้ยาวนานตลอดไป ท่านเจ้าวาสยังกล่วต่อไปด้วยว่าทปีนี้ทำแค่ 1000 กระบอกแต่ปีหน้าจะทำให้มากขึ้นกว่าปีนี้ และจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นทุกๆปี เพื่อให้เป็นประเพณีต่อไป
งานบุญกฐิน วันบ่อทองรังสรรค์ ญาติโยมที่มาร่วมงานนอกจากจะได้บุญแล้วยังได้อานิสงฆ์ เป็นข้าวหลามกลับบ้านอีกคนละกระบอก