นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการรณรงค์ไถกลบตอซัง ลดปัญหาสร้างโลกร้อนและทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างฝุ่น PM 2.5 ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษได้บูรณาการร่วมกับทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคการเกษตร ร่วมรณรงค์งดเผาตอซังและทำการไถกลบเพื่อให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ปรับปรุงคุณภาพดินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เกษตรกรต่างตื่นตัวและสนใจไถกลบตอซังมากขึ้น ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ทำนาประมาณ 3 ล้านไร่ เบื้องต้นได้ตั้งเป้าไถกลบไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 จากการสำรวจพบว่ามีการไถกลบตอซังสูงถึง 9 แสนไร่ ปีนี้จึงคาดว่าน่าจะมีการไถกลบตอซังมากขึ้นอาจถึง 1 ล้านไร่
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวอีกว่า จากการที่เกษตรกรต่างตื่นตัวและสนใจไถกลบตอซังมากขึ้น อีกทั้งมีการอัดฟางก้อนมากขึ้นด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งใช้เพื่อการเพาะปลูกหอมกระเทียมและใช้เพื่อการเลี้ยงปศุสัตว์ทั้งวัวควาย อีกทั้งยังสร้างโรงเรือนเพื่อเก็บฟางก้อนไว้จำหน่าย ส่งผลทำให้มีรายได้เสริมหลังฤดูทำนาอีกด้วย ซึ่งปีนี้ คาดว่า ชาวนาทั้ง 22 อำเภอ จะมีการอัดฟางก้อนรวมกันแล้ว ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านก้อน หากจำหน่ายในราคาก้อนละ 25 บาท ต้นทุนการอัดก้อนละ 12 - 13 บาท จะทำให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมาก หรือ มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาทเลยทีเดียว