สุโขทัย ถือเป็นต้นกำเนิดประเพณีลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งอดีตกาลกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สถานที่ จัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จนมีคำกล่าวที่ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องมาสัมผัสประเพณีลอยกระทงที่จ.สุโขทัย ให้ได้ แต่ทว่ามนต์เสน่ห์แห่งงานลอยกระทง มิได้มีอยู่เพียงเพียงแค่ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเท่านั้น
ผู้สิ่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30น. วันที่ 25 พ.ย.66 ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดจอมแจ้ง(วัดภูนก) หมู่4 ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ก็มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงด้วยเช่นกัน ที่นี่เป็นชุมชนเล็กๆแต่ทว่าอบอุ่นด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และรักษาประเพณีดั้งเดิมใว้อย่างเหนียวแน่น ผสานกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยงานลอยกระทงของที่นี่ ชาวบ้านไม่ใช้ต้นกล้วยประดิษฐ์ประดอยเป็นกระทงใบตองเช่นที่อื่นๆ แต่จะใช้จานสังกะสี สีขาว ใส่ดอกไม้ ธูปเทียน หมากพลู รวมถึงหม้อ กะละมัง ก็นำมาใช้ร่วมลอยกระทงด้วย ซึ่งนอกจากจะได้ขอขมาแม่คงคาโดยไม่ทำให้น้ำเน่าเสียแล้ว ยังได้ร่วมทำบุญกับทางวัดด้วย เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บกระทงจาน กะละมัง เหล่านี้ใว้ เมื่อเสร็จงานแล้วจะถวายให้วัดใว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
คุณสุพรรษา เรืองฤทธิ์ ประธานการท่องเที่ยวโดยชุมชนเมืองด้ง เปิดแผยว่า งานลอยกระทงที่นี่ถือเป็นงานลอยกระทง ที่มีเอกลักษณ์พื้นถิ่นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากเราไม่ทิ้งเศษวัสดุลงแม่น้ำ โดยเราใช้อุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ มาตกแต่งด้วยดอกไม้ ธูป เทียน หมากพลู เพื่อขอขมาพระแม่คงคา เสร็จแล้วก็จะเก็บขึ้นมาแล้วถวายวัดเพื่อใว้ใช้ประโยชน์ในชุมชนต่อไป ถือเป็นประเพณีลอยกระทง ที่อนุรักษ์แหล่งน้ำ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ โดยปีนี้กำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 25-27 พ.ย. จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศงานลอยกระทงที่มีคุณค่านี้ ได้ที่ท่าน้ำวัดภูนก ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย