เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 8 กรมทรัพย์สินทางปัญญา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมมอบนโยบายแก่กรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยเน้นภารกิจเร่งด่วนปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการ และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยทั้งในและต่างประเทศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า “ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นงานยิ่งใหญ่ที่สร้างคุณค่าให้กับสังคม การทำงานจึงต้องมองใน 2 ทิศทาง ได้แก่ การมองย้อนหลังและมองไปข้างหน้า ในส่วนที่ต้องมองย้อนหลัง คือเรื่องประสิทธิภาพงานบริการและการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือต้องตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ทำให้ปัจจุบันสามารถรับจดทะเบียนได้เร็วกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังขยายช่องทางให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวทาง e-Government ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอน ลดปริมาณกระดาษ ลดความแออัดของผู้มาติดต่อในพื้นที่ศูนย์บริการ สะท้อนผ่านความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีมากกว่า 95%”
“ส่วนการมองไปข้างหน้า คือการส่งเสริมศักยภาพของ SMEs ไทย ซึ่งเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น เพื่อเข้าไปช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยไม่ให้ถูกเอาเปรียบ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้สร้างโมเดลในการทำงานหลายอย่างที่ช่วยปกป้องคุ้มครองสินค้าของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งการปรับปรุงกฎเกณฑ์และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและป้องกันไม่ให้สินค้าและบริการของไทยถูกละเมิดทั้งในและต่างประเทศ โดยมีกฎหมาย 2 ฉบับที่อยู่ระหว่างปรับปรุงและเตรียมเสนอเข้า ครม. ได้แก่ พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ. คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริม Soft Power โดยบูรณาการเชื่อมโยงกับหน่วยงานทั้งในและนอกกระทรวงฯ สนับสนุนสินค้าและบริการของไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้อย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากบริการต่างๆ ของกระทรวงฯ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด” นายภูมิธรรม กล่าว
ด้าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า “กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าทำงานเชิงรุกรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าชื่นชม อย่างไรก็ดี อยากเน้นถึงความสำคัญของการส่งเสริม SMEs เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง โดยเฉพาะสินค้า GI ที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ควรเร่งขึ้นทะเบียนสินค้าใหม่ๆ ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งภายในปี 2567 มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถสร้างมูลค่าการตลาดเพิ่มอีกกว่า 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงานด้านการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จำเป็นต้องมีการมอนิเตอร์ติดตามกระบวนการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ในประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างใกล้ชิด รวมทั้งตลาดออนไลน์ เพื่อปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยให้สามารถแข่งขันในทุกตลาดได้อย่างเข้มแข็ง”