ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 10.30 น.วันที่ 10 ธ.ค. 2566 ที่บ้านเลขที่ 3 บ้านหนองอีกว่าง หมู่ 5 ต.คำเนียม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ รอง ผจก. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมด้วย ดร.เจตสุภา ตันติพิษณุ ผอ.ฝ่ายกู้ยืม กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เดินทางมาพบกับนางจันมี บุญยืน อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นแม่ของ นายวีระพล บุญยืน อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ ปีที่ 1 ม.เฉลิมกาญจนา โดยมี นายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิทยา โสภวงค์ ปลัดอำเภอประจำศูนย์ดำรงธรรม อ.กันทรารมย์ นายอำลา สืบสิมมา ผู้ใหญ่บ้านหนองอีกว่าง ให้การต้อนรับ ซึ่งวันนี้ ตัวนายวีระพล ซึ่งเป็นนักศึกษาไม่อยู่บ้านเนื่องจากไปทำงานกลุ่มที่มหาวิทยาลัย
ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ รอง ผจก. กยศ. กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวสื่อบางสื่อ วันนี้ ตนและ ผู้อำนวยการฝ่ายกู้ยืม ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้มาลงพื้นที่ เพื่อให้ข้อมูลกับคุณแม่ของนักศึกษา เนื่องจากคุณแม่อาจจะยังได้ข้อมูลยังไม่ครบ น้องนักศึกษาซึ่งเป็นลูกชายของคุณแม่ได้รับเงินกู้ยืมจาก กยส.ในภาคการศึกษาที่ 1 ทั้งที่เป็นค่าเล่าเรียนหรือค่าเทอม กับค่าครองชีพเดือนละ 3,000 บาทมาแล้ว ส่วนภาคเรียนที่ 2 นี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร และรอการยืนยันจากทางสถานศึกษา แต่อย่างไรน้องที่เคยกู้มาแล้วเทอม 2 นี้ก็ต้องได้แน่นอน
นางจันมี เล่าว่า บ้านหลังนี้ ตนอยู่กับ นายสมศรี พลศักดิ์ อายุ 82 ปี และนางทองดี พลศักดิ์ อายุ 81 ปี พ่อกับแม่ และนายวีระพล ลูกชาย ตั้งแต่ลูกชายเข้าไปเรียนที่ ม.เฉลิมกาญจนา ก็ไปพักอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย กลับมาบ้านก็สัปดาห์ครั้ง ส่วนที่เป็นข่าวในสื่อบางสื่อว่า ตนต้องไปกู้ยืมเงินเป็นจำนวน 3 แสนบาทมาเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของลูกนั้นไม่เป็นความจริง ตนมีลูก 2 คนเป็นหญิงกับชาย ลูกสาวเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียนโดยกู้ยืมเงินจาก กยศ. จนจบและทำงานแล้ว หลังจากได้ทำงานมีเงินเดือนแล้วก็ส่งคืนเงินกู้ยืมจาก กยศ.จนใกล้จะหมดแล้ว
“เงินกู้ยืม 3 แสนนั้น เป็นการกู้ยืมมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนนั้นกู้จาก ธ.ก.ส.มา 2 แสนบาท เอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็ทยอยส่งคืน และเมื่อปี 2565 ตนก็ไปกู้จาก ธ.ก.ส. มาอีก 1 แสน มาใช้จ่ายในบ้าน ซื้อเสื้อผ้าชุดนักศึกษาให้ลูก ส่วนค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในการเรียนได้จากเป็นเงินกู้ กยศ. นอกจากนั้นก็ใช้จ่ายในการดูแลรักษาพ่อซึ่งป่วยติดเตียงเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ต้องไปทำกายภาพตามหมอนัดทุกเดือน เวลานี้อากุรดีขึ้นแล้ว พ่อเดินโดยใช้ไม้เท้าได้แล้ว ก็ขอขอบคุณทาง เจ้าหน้าที่ กยศ.ที่ได้มาเยี่ยมบ้านและให้คำแนะนำ ให้ความรู้ว่าลูกชายที่เรียนมหาวิทยาลัยเทอม 2 นี้ได้เงินกู้แน่นอน” นางจันมี กล่าว.