ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ชัยภูมิ สีสันงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟกีฬาโบราณมีให้ชมหนึ่งเดียวในโลก
17 ธ.ค. 2566

        ( 17 ธ.ค.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ จะพาไปดูสีสันความสนุกสนาน ภายในงานมหัศจรรย์ตีคลีไฟกีฬาโบราณมีให้ชมหนึ่งเดียวในโลก ของชาวตำบลกุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่มีนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศในประเทศไทยและจากต่างชาตินับหลายหมื่นคนมาเที่ยวชมคึกคักกว่าทุกปีในช่วงวันที่ 15-16 ธ.ค.66 ที่ลานวัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 

         เพื่อช่วยเสริมให้เป็น SolF Power ให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับคนในชุมชน ให้เป็นที่รู้จักของคนจากทั่วโลก ได้เป็นอย่างดีมาทุกปี ที่จะมีทั้งลานให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และอิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่น ตลาดย้อนยุคเดินแซบ เดินนัว และนั่งรับประทานอาหารพาแลงพื้นบ้านของชาวบ้านหนองเขื่อง ที่ปีนี้ น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้ใช้ไม้ตีลูกคลีไฟ เปิดการแข่งขันเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา(16 ธ.ค.66) 

        โดยตำนานการละเล่นตีคลีไฟที่นี่ ในสมัยโบราณในช่วงเกี่ยวข้าว ช่วงหนาวหน้า ก่อนอาบน้ำในคลองใกล้บ้านก่อนค่ำ ชาวบ้านจะนำท่อนต้นนุ่นแห้งเหลาเป็นลูกกลมคล้ายลูกฟุตบอล และจะใช้เหง้าไม้ไผ่ที่อยู่ริมห้วยมาตีแข่งกันเล่นเพื่อสร้างความสนุกนาน เรียกว่าตีคลีโหลน(แบบไม่เผาไฟ) แข่งกันแบบตีไกล ใครตีไปได้ไกลกว่าเป็นผู้ชนะ แข่งไปได้ไม่นาน ลูกไม้นุ่นแห้ง ได้ถูกตีไปเข้ากองไฟที่ชาวบ้านผิงคลายหนาว ลูกคลีได้ติดไฟขึ้น และชาวบ้านนำมาตีเล่นกันต่อ จึงเห็นเป็นประกายไฟ กระจายไปกับแรงตีและปลิวไปกับลูกคลีไฟอย่างสวยงามในเวลาพลบค่ำ จึงเป็นที่มาของตีคลีไฟสืบทอดเป็นประเพณีการละเล่นกีฬาโบราณมาได้ทุกวันนี้จนปัจจุบัน 

        ซึ่งการละเล่นตีคลีไฟ เป็นการละเล่นของชายหนุ่มบ้านหนองเขื่อง รวมทั้งส่วนหนึ่งก็ยังมีผู้หญิงในหมู่บ้านก็พากันออกมาเล่นเช่นกันด้วย ของชาวตำบลกุดตุ้ม  อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยเอาต้นงิ้วแห้ง หรือต้นนุ่นหั่นเป็นท่อนขนาด 10 - 15 เซนติเมตร ก่อนนำมาเผาไฟเพื่อตีแข่งกีฬากัน ส่วนไม้ตีใช้เหง้าไม้ไผ่ ตรงปลายงอ ด้ามยาวประมาณ 1 เมตร ใช้ตีกันอย่างสนุกสนาน คล้ายกับกีฬาฮอกกี้ ต่อมาได้รับการแพร่หลาย และพัฒนามาเป็นกิจกรรมประเพณีที่นำมาเล่นในช่วงหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว ช่วงฤดูหนาว ไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ แข่งขันกันทั้งในช่วงบ่ายก็สามารถเล่นได้ด้วยการตีคลีโหลน และในช่วงค่ำหรือกลางคืนก็ยิ่งจะมีสีสันแสงไฟจากลูกคลีไฟที่สวยงาม 

          ที่จะกำหนดผู้เล่นแต่ละฝ่ายตั้งแต่ ทีมละ 5-11 คน ใช้ไม้จากต้นนุ่นแห้ง มาตัดเป็นท่อนแล้วเผาไฟจนกลายเป็นถ่าน ให้ผู้เล่นใช้ไม้ซึ่งทำจากไม้ไผ่หัวขวานลักษณะคล้ายไม้กอล์ฟ หรือไม่ฮอกกี้ ตีเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม ทีมใดที่สามารถตีลูกคลีไฟเข้ามากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ  ส่วนกติกาการแข่งขันจะคล้ายการแข่งขันฟุตบอล และฮอกกี้ เพียงแต่ใช้ไม้ตีลูกคลีไฟแทนการเตะลูกฟุตบอล และห้ามยกไม้คลีสูงเกินเอว เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ตีคลียกขึ้นไปโดนศีรษะของแต่ละฝ่ายแตกได้ ส่วนผู้รักษาประตูจะใช้ส่วนไหนของร่างกายรับลูกคลีก็ได้ ในด้านอันตรายที่ผ่านมา จะพบเพียงมีการตีลูกคลีถูกหน้าแข็งของฝ่ายตรงข้าม เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น 

        เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนจะมีน้ำใจเป็นนักกีฬาไม่มีการแกล้งกันแต่อย่างใด ซึ่งในการแข่งขันเมื่อตีลูกคลีไฟไปในทิศทางต่าง ๆ จะเป็นลูกไฟลอยไปอย่างสวยงาม สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ชมขอบสนามได้ตื่นตาตื่นใจเป็นอันมาก  

         และในปีนี้ยังมีสีสันความสนุกสนานของงานนอกจากนักท่องเที่ยว จะได้ชมความสนุกสนานของการแข่งขันตีคลีไฟของชาวบ้าน ต.กุดต้ม อ.เมืองชัยภูมิ แล้ว ในตอนบ่ายแก่ๆที่ผ่านมา ยังมีการจัดแข่งขันการตีคลีโหลน(ไม่เผาไฟ) คู่พิเศษระหว่างทีมนักข่าว สื่อมวลชน จากสมาคมนักข่าวสื่อมวลชน จ.ชัยภูมิ กับทีมชาวบ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม ในปีนี้ด้วย ซึ่งทำไมไม่แข่งขันตีคลีไฟ ด้วยเหตุผลที่นักข่าว สื่อมวลชน เคยแต่แบกกล้องถ่ายภาพ ใช้ปากกาเขียนข่าว ทางชาวบ้านจึงอยากให้ลงแข่งขันแบบตีคลีคลีโหลน(ไม่เผาไฟแทน) เพื่อให้นักข่าวมือใหม่ได้มาลองลงแข่งช่วยกันสืบสานการเล่นกีฬาโบราณตีคลีไฟในปีนี้ ได้คึกคักอีกทางได้เช่นกัน ใช้เวลาแข่งขันครึ่งละ 15 นาที รวมใช้เวลาแข่งขันรวม 30 นาที หรือครึ่งชั่วโมง เมื่อเริ่มแข่งขันฝ่ายชาวบ้านหนองเขื่อง ซึ่งมีความชำนาญในการตีคลีไฟอยู่แล้ว กับทีมสมาคมนักข่าวสื่อมวลชน จ.ชัยภูมิ ใช้ชื่อว่าทีม”พิราบขาว” ที่ไม่เคยตีคลีไฟมาก่อนกันเลย จะมีความเก้ๆกังๆขนาดไหน ไปชมบรรยากาศความสนุกสนาน การแข่งขันแพ้ชนะไม่สำคัญแต่ความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งกับชาวชัยภูมิ ได้ร่วมสืบสวนประเพณีกีฬาโบราณตีคลีไฟ ที่มีให้ชมเพียงหนึ่งเดียวในโลกในปีนี้ได้อีกคึกคักอีกปีไม่แพ้กัน
อธิวัฒน์​ เตีย​เจริญ​ภักดี​   จังหวัด​ชัยภูมิ​ รายงาน​

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...