เมื่อเวลา 06.00 น. (17 ธ.ค.66 ) พันเอก องอาจ สัมพันธ์  ผบ.ฉก.ทพ.35  นำกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 3504 พร้อมชุดสุนัขทหาร กองกำลังนเรศวรและชุดการข่าวนอกเครื่องแบบทหารพรานพร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ ร่วมกันตั้งจุดสกัดที่ด่านพะละ ถนนสายแม่ระมาดน้อย-บ้านตาก หมู่ที่ 3  ตำบลขะเนจื้อ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อจะสกัดการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิด 

         ในเวลาต่อมาได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะแบบมีคอกเหล็กไว้ขนสินค้า  หมายเลขทะเบียน ผค-5775เพชรบูรณ์ โดยรถยนต์ขนสินค้าคันดังกล่าวขับมาจากชายแดนอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตากและกำลังขับมุ่งหน้าเข้าจุดตรวจทหารพรานด่านพะละ เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจึงส่งสัญญาณเพื่อหยุดรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อขอตรวจสอบและทันทีที่รถยนต์คันดังกล่าวหยุดรถพบตัวนางสาว รัตนสภรณ์ คำมูล อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นคนขับรถซึ่งมีรูปร่างหน้าสาวสวยได้รีบพูดจาทักทายกับเจ้าหน้าที่ด้วยรอยยิ้มและคำหวานต่างๆนาๆ เพื่อจะเบี่ยงแบนความสนใจไม่ให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นและแจ้งกับทหารพรานว่าด้านหลังรถเป็นลังผลไม้เปล่าแต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเบื้องต้นพบลังใส่ผลไม้เปล่าสร้างอำพรางด้านท้ายกระบะแบบแน่นหนาแต่พอเจ้าหน้าที่ทำการรื้อค้นเพื่อตรวจสอบก็พบความผิดปกติเนื่องจากชั้นที่สองปรากฏว่าลังผลไม้กลับดิ้นและขยับเองได้และพบกลิ่มตัวมนุษย์ เจ้าหน้าที่จึงนำลังผลไม้ที่วางเป็นแถวออกตรวจสอบพบชาวเมียนมาซึ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมายเป็นชาย 3 คนและเป็นหญิง 4 คนรวมทั้งหมดจำนวน 7 คน โดยทั้งหมดแอบนอนคดตัวซุกซ่อนตัวอยู่ในลังผลไม้พร้อมกระเป๋าสัมภาระคนและแถวและต้องแอบซ่อนตัวอยู่ในลังผลไม้ที่คับแคบนานหลายชั่วโมงและแทบจะขยับตัวไม่ได้เลยซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างมากเจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้งในและนอกเครื่องแบบต้องรีบช่วยเหลือนำตัวแรงงานผิดกฎหมายทั้ง 7 คนออกจากลังผลไม้อย่างทุลักทุเลพร้อมนำตัวไปช่วยเหลือมอบอาหารและน้ำดื่มสะอาดเพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเบื้องต้นพร้อมควบคุมตัวสาวสวยนักกลอุบายไปสอบสวนขยายผลอย่างเร่งด่วนที่ฐานทหารพราน-3504 

       จากการสอบถามนาง มีซู แง อายุ 23 ปี หนึ่งในแรงงานที่ซ่อนตัวมากับลังผลไม้สารภาพว่าตนเองพร้อมเพื่อนสัญชาติเมียนมาทั้งหมดที่ถูกจับในครั้งนี้ ได้เดินทางมาจากจังหวัดเมาะละเหม่ง ประเทศเมียนมาและเดินทางหลายวันมารวมตัวที่แนวชายแดนจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาพอช่วงกลางคืนได้ลักลอบข้ามแม่น้ำเมยที่น้ำแห้งขอดข้ามมายังพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตาก จากนั้นมีกลุ่มขบวนการนายหน้าคนไทยนำรถยนต์กระบะดัดแปลงมารับซ่อนตัวในลังผลไม้และต้องจ่ายเงินค่านายหน้าคนไทยเป็นค่าขนส่งนำพาจากชายแดนจังหวัดตากไปส่งที่กรุงเทพมหานครเป็นเงินจำนวน 17000 บาทต่อคนแต่ก็ไปไม่รอดถูกจับก่อนไปกรุงเทพ 

         ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดจับกล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำเมยที่กั้นแนวชายแดนไทย-เมียนมาระดับน้ำลดลงทำให้การลักลอบข้ามแนวชายแดนแบบผิดกฎหมายทำได้ง่ายมากขึ้นและครั้งนี้กลุ่มขบวนการได้เปลี่ยนรูปแบบกลวิธีการขนแรงงานเถื่อนคือว่าจ้างผู้หญิงสาวสวยให้มาขับรถขนแทนผู้ชายเพื่อหวังจะใช้ความสาวสวยพูดจาขอให้เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจค้นรถแต่เจ้าหน้าที่ไม่หลงกล สำหรับถนนสายแม่ระมาด-บ้านตาก เป็นเส้นทางสายลองจากถนนสายหลักแม่สอด-ตาก ปัจจุบันมีกลุ่มขบวนการมักใช้ถนนสายลองสายนี้ลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายจึงทำให้ พันเอก องอาจ สัมพันธ์  ผบ.ฉก.ทพ.35  ต้องวางกำลังสกัดกั้นกลุ่มขบวนการในทุกเส้นทางทั้งถนนเส้นทางภูเขาแนวธรรมชาติและถนนสายรองอย่างเข้มงวดซึ่งก็สามารถสกัดจับกลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่องและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด….. เกษมสันต์ ไชยเดช ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงาน