***เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 66 นางสาวราตรี มะลิสิงห์ อายุ 33 ปี อยู่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ณัฐกลม ท้าวกลาง สว.(สอบสวน) สภ.วังสะพุง จ.เลย ว่า ได้ไปกู้เงินนอกระบบมา แต่เศรษฐกิจไม่ดี ถูกแก๊งทวงหนี้มาข่มขู่ทำร้ายและขู่ฆ่าที่บ้าน บอกไม่กลัวตำรวจ พยายามขอร้องผัดผ่อนแต่เจ้าหนี้ไม่ยอม จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะกลัวถูกทำร้ายร่างกาย
***นางสาวราตรี มะลิสิงห์ เล่าว่า ตนเองไปกู้เงินนอกระบบจาก นายสุริยัน ทองปัญญา อายุ 29 ปี และนายเอกวิท รองสำลีอายุ 18 ปี เป็นเงิน 10,000 บาท โดนหักค่าทำสัญญาไป 2,200 บาท รับเงินจริง 7,800 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 200 บาท จ่ายไปแล้ว 56 วัน เป็นเงิน 11,200 บาท ไม่รวมเงินต้น แต่เศรษฐกิจไม่ดี เจ้าหนี้บอกให้จ่ายเงินต้นอาทิตย์ละ 1,000 บาท ไม่รวมดอกรายวันๆ ละ 200 บาท จึงขอจ่าย 500 บาท โดยการโอนเข้าบัญชีไปแล้ว 3 งวด เป็นเงิน 1,500 บาท แต่เจ้าหนี้ไปยอม มาทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายและขู่ฆ่าที่บ้าน บอกไม่กลัวตำรวจ พยายามขอร้องผัดผ่อนแต่เจ้าหนี้ไม่ยอม จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะกลัวถูกทำร้ายร่างกาย และก่อนหน้านั้นก็ไปลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่อำเภอวังสะพุง จนท.ได้เรียกเจ้าหนี้มาเจรจาแต่ไม่ยอมมา จนมาข่มขู่ที่บ้านและโรงพัก56 วัน
***ขณะที่ พงส.กำลังพูดคุยกับผู้เสียหาย นายสุริยัน ทองปัญญา และนายเอกวิท รองสำลี มาที่โรงพักข่มขู่เอาเงินจากผู้เสียหาย และยังบอกอีกว่าไม่กลัวตำรวจ ต่อหน้า พงส. แบบไม่เกรงใจ จนท.จึงจับกุมตัวทั้ง 2 คน จึงแจ้งข้อกล่าว “ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด”
***นายสุริยัน ทองปัญญา ผู้ต้องหา เล่าว่า ไม่ได้ข่มขู่แต่อย่างไร แต่ต้องการเงินคืน เมื่อผู้เสียหายมาแจ้งความ ก็อยากจะขอเจรจากับผู้เสียหาย โดยขอยกหนี้ทั้งหมดให้ แต่ไม่ให้เอาเรื่อง ส่วนที่มาทวงหนี้บนโรงพักไม่ใช่ไม่กลัวตำรวจแต่กลัวอยู่ ส่วนการทวงหนี้มีการข่มขู่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัจจุบันลูกหนี้ที่มากู้ก็ไม่กลัว
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
บุศย์ สิริปัญญาพร/เลย 087-2259909